เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการซาอุดีอาระเบียเผยในวันพฤหัสบดี (24) พบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ “MERS” รายใหม่อีก 11 คนในประเทศของตนและถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบผู้ติดเชื้อใน “นครเมกกะ” ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 272 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 81 คน
กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 คนในกรุงริยาดห์เมืองหลวงของประเทศ, อีก 6 รายในเมืองเจดดาห์เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และอีก 1 รายที่นครเมกกะ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อที่นครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
โดยคำแถลงของกระทรวงฯ ระบุว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 คนนี้ มีอยู่ 8 รายที่ต้องถูกนำตัวเข้ารับการรักษาใน “หอผู้ป่วยหนัก”
การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (Middle East respiratory syndrome coronavirus : MERS-CoV) 11 รายล่าสุดในซาอุดีอาระเบียมีขึ้นหลังจากที่กษัตริย์อับดุลเลาะห์ทรงสั่งปลดอับดุลเลาะห์ อัล-ราเบียห์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ (21) หลังจากที่รัฐมนตรีรายนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการรับมือการระบาดของเชื้อมรณะสายพันธุ์ใหม่ซึ่งยังไม่มีหนทางรักษา พร้อมแต่งตั้งให้อาเดล ฟาเกียห์ รัฐมนตรีแรงงานเข้ารักษาการแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลริยาดห์ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก 5 บริษัทในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือเข้ามาร่วมโครงการพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ชนิดนี้ ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิด “โรคซาร์ส”
จนถึงขณะนี้ ทางการซาอุฯ เชื่อว่า ต้นตอของการระบาดของไวรัสมรณะ MERS นี้มาจากสัตว์พื้นเมืองอย่าง “อูฐ” ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากหลายประเทศออกโรงเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ไวรัสชนิดนี้อาจกลายพันธุ์และก่อให้เกิดการติดต่อจากคนสู่คนในวงกว้าง
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการแพร่ระบาดขนานใหญ่ของไวรัส MERS ในซาอุดีอาระเบียระหว่างช่วงการถือศีลอดเดือนรอมฎอนในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงการหลั่งไหลของผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจำนวนหลายล้านคนจากทั่วโลกที่มุ่งหน้าไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบียในช่วงต้นเดือนตุลาคม
