รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทีมอัยการเกาหลีใต้บุกตรวจค้นบ้านพักของ “ยู บยอง-อึน” เจ้าของบริษัทเรือเฟอร์รีที่ประสบอุบัติเหตุอับปางนอกชายฝั่งโสมขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากโศกนาฏกรรมทางน้ำที่รุนแรงที่สุดในรอบ 21 ปีของเกาหลีใต้ครั้งนี้ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 128 รายแล้ว
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยระบุว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ ได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของยู รวมถึงโบสถ์อีกแห่งหนึ่งในกรุงโซลในวันพุธ (23) ที่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจและผลประโยชน์ของบริษัท “ชองแฮจิน มารีน” ที่เป็นเจ้าของเรือเฟอร์รี “เซวอล” ที่ประสบอุบัติเหตุอับปางเมื่อวันพุธที่แล้ว (16 เม.ย.)
อย่างไรก็ดี สำนักอัยการเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดต่อการตรวจค้นครั้งนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ในกรุงโซลรายงานว่า โบสถ์ที่ต้องสงสัยนั้นถูกล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา
ทั้งนี้ ข้อมูลด้านการเงินของบริษัทชองแฮจิน ตลอดจนโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่มีความสลับซับซ้อน กำลังกลายเป็นประเด็นที่สังคมเกาหลีให้ความสนใจ โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวที่ระบุว่า ยู บยอง-อึน เจ้าของบริษัทแห่งนี้เคยถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกนาน 4 ปีฐานฉ้อโกงเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1990
ในอีกด้านหนึ่ง ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วล่าสุดจากอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีเซวอลพลิกคว่ำและอับปาง บริเวณนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 128 รายแล้วในวันพุธ (23) ขณะที่อีก 174 ชีวิตยังคงสูญหายแต่คาดว่าทั้งหมดน่าจะจมน้ำเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ เป็นข้อมูลที่ได้รับการยืนยันล่าสุดจากหน่วยยามฝั่งโสมขาว
ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจากการยืนยันของหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ที่อย่างน้อย 128 ราย และตัวเลขผู้สูญหายที่ยังสูงถึง 174คน จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือเฟอร์รีเซวอลที่มีระวางขับน้ำ 6,825 ตันเมื่อ 16 เมษายน ส่งผลให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางน้ำครั้งที่เลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้
ขณะที่ผู้รอดชีวิตจำนวน 174 รายจากเหตุการณ์นี้มี “กัปตันเรือ พร้อมด้วยลูกเรือส่วนใหญ่” รวมอยู่ด้วย ขณะที่ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด คือ “ผู้โดยสาร”
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (21) ประธานาธิบดีหญิง พัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ออกมากล่าวประณามพฤติกรรมของกัปตันอี จุน-ซก วัย 69 ปี และลูกเรือทั้งหมดของเรือเฟอร์รีเซวอลว่าเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้ และถือว่ากัปตันและลูกเรือกลุ่มนี้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะ “ฆาตกร”
“การกระทำของกัปตันและลูกเรือนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และถือได้ว่าเป็นฆาตกร นี่ถือเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นทั้งในแง่กฎหมายหรือจริยธรรม” ทำเนียบสีน้ำเงินแห่งเกาหลีใต้แถลงคำกล่าวของประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ในการประชุมกับที่ปรึกษาระดับอาวุโส
ทั้งนี้ กัปตันอีถูกจับกุมตัวในวันเสาร์ (19) พร้อมกับนายท้ายเรือ และผู้ช่วยต้นเรือที่ไม่มีประสบการณ์ในการเดินเรือร่องน้ำที่เชี่ยวกราก แต่กลับได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับเรือในขณะเกิดเหตุ