เอเอฟพี/เอพี/เอจนซีส์ - ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัค กึน-ฮเย กล่าวในวันนี้ (21 เม.ย.) ว่า พฤติกรรมของกัปตันลี จุน-ซก วัย 69 ปีและลูกเรือทั้งหมดของเรือเฟอร์รีเซวอลที่ล่ม 5 วันพร้อมกับผู้โดยสาร 476 คนนั้น “รับไม่ได้” และถือว่าคนทั้งหมดนี้ต้องรับผิดชอบในฐานะ “ฆาตกร” หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยถึงบันทึกการสนทนาระหว่างลูกเรือและเจ้าหน้าที่ควบคุมขนส่งทางน้ำเกาหลีใต้ช่วงเวลาเรือล่ม พบมีความอลหม่านเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตและมีการลังเลสั่งอพยพ ยอดตัวเลขพบศพผู้เสียชีวิตล่าสุด 64 ราย และมีการดำเนินคดีลูกเรือเพิ่มอีก 4 คนในข้อหาละทิ้งเรือเฟอร์รีเซวอลทำให้ผู้โดยสารเรือไม่ปลอดภัย
“การกระทำของกัปตันและลูกเรือส่วนหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และถือได้ว่าเป็นฆาตกร” ทำเนียบสีน้ำเงินแห่งเกาหลีใต้แถลงคำกล่าวของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัค กึน-ฮเย ในการประชุมกับที่ปรึกษาระดับอาวุโส
“ไม่เพียงแต่กับดิฉันแต่กับชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดที่ต้องหัวใจสลายด้วยความตกตะลึงและความโกรธแค้น” พัคกล่าว ซึ่งเธอได้พบปะกับบรรดาญาติผู้โดยสารเรือเฟอร์รีเซวอลในวันพฤหัสบดี (17) ที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้โดยสารจำนวนหลายร้อยคนยังคงเป็นผู้สูญหายและส่วนใหญ่เป็นนักเรียน
ที่ผ่านมาบรรดาญาติตำหนิการทำงานที่ล่าช้าของทางเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ในการตอบสนองต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยพบว่าปฏิบัติการกู้ภัยช่วงเกิดเหตุนั้นไม่เหมะสมและขาดการจัดการที่ดี
นอกจากนี้ พัคยังกล่าวว่า ดูเหมือนว่ามีความชัดเจนขึ้นเรี่อยๆ ว่ากัปตันลี จุน-ซก วัย 69 ปี นั้นล่าช้าในการสั่งอพยพผู้โดยสารทั้งๆที่ไม่ควรจะเกิดในระยะตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ และยังเป็นคนที่หลบหนีออกไปก่อนผู้โดยสารอื่น
ทั้งนี้ กัปตันลีถูกจับกุมตัวในวันเสาร์ (19) พร้อมกับนายท้ายเรือ และผู้ช่วยต้นเรือที่ไม่มีประสบการณ์ในการเดินเรือร่องน้ำที่เชียวกรากแต่เป็นผู้บังคับเรือในขณะเกิดเหตุ
“นี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าเกิดขึ้นทั้งในแง่กฎหมายหรือจริยธรรม” พัคกล่าวต่อ และเสริมว่า “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้นับตั้งแต่บริษัทเรือเฟอร์รี ไปจนถึงผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยและลูกเรือจะต้องถูกสอบสวน และคนที่มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องถูกดำเนินคดี”
ด้านตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตที่สามารถกู้ออกมาจากเรือเฟอร์รีได้ล่าสุดอยู่ที่ 64 ราย “ในเวลา 23.48 น.ทีมกู้ภัยร่วมได้ทุบหน้าต่างของเรือเฟอร์รีและสามารถเข้าไปภายในตัวเรือโดยสาร” รัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวผ่านแถลงการณ์
ทางทีมนักประดาน้ำสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้จำนวนเพิ่มมากขึ้นในชั่วเวลาข้ามคืน และทางเจ้าหน้าที่ระบุที่จะใช้เครนยกเรือเฟอร์รีขึ้นเพื่อจะค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
นอกจากนี้ในวันอาทิตย์ (20) มีการเปิดเผยบันทึกเหตุการณ์คำสนทนาระหว่างลูกเรือเซวอลและเจ้าหน้าที่ควบคุมขนส่งทางน้ำเกาหลีใต้ในช่วงเกิดเหตุ พบว่ามีแต่ความโกลาหลและการไม่ตัดสินใจของลูกเรือหลังจากที่เรือเฟอร์รีเริ่มประสบเหตุ โดยในหน้าหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ ดอง-เอ อิลโบ ได้พาดหัวว่า “นาทีที่มีค่าได้ปล่อยให้สูญเปล่า”
ในคำสนทนาของหนึ่งในลูกเรือเซวอลได้ถามทางเจ้าหน้าที่ย้ำเพื่อต้องการทราบว่าหน่วยงานเกาหลีใต้สามารถอพยพผู้โดยสารเรือเซวอลได้หรือไม่ โดยเขาถามว่า “ยามฝั่งเกาหลีใต้มีเรือประจำการมากพอที่สามารถใช้อพยพผู้โดยสารจากเรือเฟอร์รีเซวอลได้หรือไม่หากมีการสั่งการอพยพ” ในขณะที่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กลับย้ำกับลูกเรือว่า “ลูกเรือต้องตรวจสอบให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพและเสื้อผ้าอื่นๆเพิ่มเติม” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กล่าวต่อว่า ทางเรือตรวจการเกาหลีใต้สามารถเดินทางไปถึงเรือประสบเหตุได้ภายใน 10 นาที แต่ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงเรือพลเรือนอื่นๆ
นอกจากนี้ ในบางช่วงของการสนทนาเจ้าหน้าที่ควบคุมขนส่งทางน้ำเกาหลีใต้ย้ำว่า กัปตันเรือเป็นผู้เดียวที่สามารถตัดสินใจอพยพผู้โดยสารได้ “การสั่งอพยพ คุณ กัปตันเรือต้องเป็นผู้ตัดสินใจสั่งการสุดท้าย” เจ้าหน้าที่กล่าว
และในวันนี้ (21) อัยการอาวุโสเกาหลีใต้ อัน แซง-ดอน เปิดเผยว่า มีลูกเรือเพิ่มอีก 4 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาละเลยการให้ความปลอดภัยกับผู้โดยสาร
โดยเขาเปิดเผยว่า ทั้ง 4 คนที่ถูกดำเนินคดีฐานละทิ้งเรือเฟอร์รีนี้ประกอบไปด้วย ต้นเรือจำนวน 2 คน ต้นหน 1 คน และต้นกลอีก 1 คน
นอกจากนี้ อันยังเปิดเผยว่า เขาจะขอให้ศาลออกหมายจับเพื่อจะให้มีระยะการดำเนินการสอบสวนคดีนานขึ้น ทั้งนี้ในเกาหลีใต้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโดยไม่ขอหมายจากศาลได้เพียง 48 ชั่วโมง
