xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ชาวญี่ปุ่น 60% สนับสนุนกิจกรรม “ล่าวาฬ” แต่ “กินเนื้อวาฬ” แค่ 14%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – ผลสำรวจล่าสุดเผย ชาวญี่ปุ่นสนับสนุนกิจกรรมล่าวาฬเพื่อการวิจัยมากถึงร้อยละ 60 แต่มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้นที่รับประทานเนื้อวาฬ

ผลสำรวจความคิดเห็นนี้ถูกเผยแพร่เพียงไม่ถึง 1 เดือน หลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) มีคำพิพากษาว่ากิจกรรมล่าวาฬประจำปีของญี่ปุ่นในมหาสมุทรใต้ (Southern Ocean) เป็นการล่าในเชิงพาณิชย์ที่นำเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นข้ออ้างหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ

หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนได้สอบถามความเห็นชาวญี่ปุ่น 1,756 คน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบว่าร้อยละ 60 ของผู้ตอบแบบสอบถามสนับสนุนโครงการล่าวาฬ “เพื่อวิจัย” ในขณะที่ร้อยละ 23 ไม่เห็นด้วย

เมื่อถามชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ว่าพวกเขารับประทานเนื้อวาฬบ่อยแค่ไหน ปรากฏว่ามีเพียงร้อยละ 4 ที่ “ทานเป็นบางครั้ง” และร้อยละ 10 บอกว่า “ทานไม่บ่อย”

ผู้ตอบคำถามเกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 48) ยอมรับว่าไม่ได้รับประทานเนื้อวาฬมานานแล้ว ขณะที่ร้อยละ 37 ตอบว่าพวกเขาไม่เคยทานเนื้อวาฬเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แม้จะซื้อหาได้ไม่ยากตามท้องตลาด แต่เนื้อวาฬก็ไม่ใช่วัตถุดิบที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นำมาใช้ประกอบอาหาร

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจะปรับปรุงกิจกรรมล่าวาฬในทะเลแอนตาร์กติกาเสียใหม่เพื่อให้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น และจะเดินหน้าโครงการ “ล่าวาฬเพื่อวิจัย” ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือต่อไป โดยจะส่งกองเรือล่าวาฬออกไปในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (26)

โตเกียวรับรองว่า จะไม่มีการล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ช่วงปี 2014-2015 แต่จะยังส่งเรือออกไปเพื่อสานต่อโครงการวิจัย “ที่ไม่เป็นอันตราย” อย่างไรก็ดี คำแถลงเช่นนี้อาจบอกเป็นนัยๆ ว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะส่งกองเรือติดตั้งปืนฉมวกกลับไปล่าสังหารฝูงวาฬอีกครั้งในปีถัดไป ซึ่งก็หมายความว่าญี่ปุ่นจะต้องเผชิญหน้ากับชาติที่ต่อต้านการล่าวาฬ โดยเฉพาะออสเตรเลียที่ยื่นฟ้องกิจกรรมล่าวาฬของญี่ปุ่นต่อไอซีเจ

ญี่ปุ่นซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการล่าวาฬนานาชาติ (IWC) อาศัยช่องโหว่ของกฎห้ามล่าวาฬเพื่อการค้าในปี 1986 โดยอ้างว่าทำไปเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า เนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกล่าเหล่านี้มักจะกลายเป็น “เมนูอาหาร” ของชาวญี่ปุ่นในที่สุด

รัฐบาลโตเกียวอ้างว่า กิจกรรมล่าวาฬมีจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ว่าประชากรวาฬมีมากพอที่มนุษย์จะล่าเพื่อการค้าได้อย่างยั่งยืน

ผลสำรวจล่าสุดโดยอาซาฮีชิมบุนยังพบว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 40 มองว่าคำตัดสินของไอซีเจเหมาะสมแล้ว มีเพียงร้อยละ 39 ที่ไม่เห็นด้วย

โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร, ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น แถลงเมื่อวันศุกร์ (18) ว่า รัฐบาลจะ “ส่งรายละเอียดโครงการวิจัยชุดใหม่ไปยังคณะกรรมาธิการล่าวาฬนานาชาติ โดยยึดถือหลักเกณฑ์จากคำตัดสินของไอซีเจ”

สหรัฐฯและญี่ปุ่นเคยล่าวาฬอย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 19 เนื่องจากวาฬเป็นทั้งแหล่งอาหารและพลังงาน แต่เมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเฟื่องฟูขึ้นและผู้คนมีแหล่งโปรตีนทางเลือกจากการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ความนิยมบริโภควาฬในญี่ปุ่นจึงลดลงโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม กลุ่มล็อบบีที่ส่งเสริมการล่าวาฬยังคงมีอิทธิพลอย่างสูง และสามารถโน้มน้าวให้รัฐบาลญี่ปุ่นดึงเงินภาษีประชาชนมาอุดหนุนกิจกรรมล่าวาฬในแต่ละปี
กำลังโหลดความคิดเห็น