เอเอฟพี – สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นออกมาเรียกร้องในวันนี้ (16 เม.ย.) ให้รัฐบาลร่างโครงการล่าวาฬ “เพื่อวิจัย” ขึ้นใหม่ เพื่อหลบเลี่ยงคำตัดสินของศาลโลกที่ระบุว่าแท้ที่จริงแล้วโครงการล่าวาฬของแดนอาทิตย์อุทัยมีวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ มิใช่ในเชิงวิทยาศาสตร์ตามที่กล่าวอ้าง
คณะกรรมาธิการการประมง 40 คนซึ่งเป็นคณะบุคคลที่ทรงอิทธิพล และเป็นกลุ่มหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ผ่านมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นศึกษา “ทางเลือกทุกทาง เป็นต้นว่า การถอนตัวจากความเป็นภาคีอนุสัญญา (ควบคุมการล่าวาฬระหว่างประเทศ)”
คำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่มีออกมาเมื่อต้นเดือนนี้เป็นสิ่งที่ “น่าเสียดายอย่างแท้จริง” แต่ “ไม่อาจขัดขวางไม่ให้ญี่ปุ่นล่าวาฬ ซึ่งเป็นประเพณีและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น” คณะกรรมาธิการชุดนี้ระบุ
คณะกรรมาธิการชุดนี้เรียกร้องให้รัฐบาลหาหนทางดำเนินปฏิบัติการวิจัยต่อไป “เพื่อแสดงบทบาทของชาติเดียวในโลกที่ (ล่าวาฬ) เพื่อจุดประสงค์ทางวิทยาศาสตร์”
นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาแดนอาทิตย์อุทัยยังเรียกร้องให้รัฐบาลร่างโครงการขึ้นใหม่ทันที เพื่อแทนที่ปฏิบัติการล่าวาฬแถบขั้วโลกใต้ที่ศาลโลกสั่งห้าม และเตรียมพร้อมสำหรับโครงการใหม่อย่างเต็มที่ ขณะจัดจำหน่าย “เนื้อวาฬ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการล่าวาฬเพื่อการวิจัย ด้วยวิธีการอันเหมาะสมดังที่เคยปฏิบัติมา”
แม้ว่า ญี่ปุ่นจะร่วมลงนามเป็นภาคี “สนธิสัญญาควบคุมการล่าวาฬระหว่างประเทศ” (ไอดับเบิลยูซี) ซึ่งห้ามไม่ให้มีการล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้เพื่อการค้า แต่ประเทศนี้ยังอาศัยช่องโหว่ของข้อห้ามที่อนุญาตให้ล่าวาฬเพื่อการวิจัยได้
ญี่ปุ่นระบุว่า การที่ชาวญี่ปุ่นบริโภคเนื้อวาฬซึ่งเป็นผลพลอยได้จากโครงการล่าวาฬนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังคงยืนยันว่า โครงการนี้ของญี่ปุ่นอ้างเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพื่อบังหน้า โดยออสเตรเลียยื่นฟ้องญี่ปุ่นต่อศาลโลก ในกรุงเฮก เรื่องโครงการล่าวาฬ
คณะผู้พิพากษามีตำตัดสิน 12 ต่อ 4 สนับสนุนคำฟ้องของกรุงแคนเบอร์ราให้โตเกียวยุติการล่าวาฬในปี 2014-15
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เอกสารทางกฎหมายซึ่งส่งให้สหรัฐฯ เผยให้เห็นว่าสถาบันวิจัยเซตาเชียน ซึ่งเป็นองค์กรในญี่ปุ่นที่บริหารโครงการล่าวาฬ มีเจตจำนงที่จะกลับไปล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ ในปีถัดไปด้วยโครงการที่ร่างขึ้นใหม่
เมื่อวันจันทร์ (14) ญี่ปุ่นเน้นย้ำว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับไปล่าวาฬแถบขั้วโลกใต้อีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ แดนอาทิตย์อุทัยกำลังศึกษาว่า ควรดำเนินโครงการล่าวาฬในน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งแต่เดิมมีกำหนดจะส่งกองเรือออกไปในเดือนนี้ต่อไปหรือไม่
ที่ผ่านมา ปฏิบัติการล่าวาฬซึ่งได้รับผลกระทบจากคำพิพากษาของศาลโลก จะส่งเรือออกล่าวาฬปีละ 2 ครั้ง ในน่านน้ำบริเวณชายฝั่งและนอกชายฝั่ง นับตั้งแต่ต้นฤดูร้อนจนล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง
ในเวลาที่กำลังฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำลังปรึกษาหารือกันอยู่นี้ ภาคอุตสาหกรรมการล่าวาฬได้เชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภาร่วมรับประทานบุฟเฟต์ประจำปีวานนี้ (15) ซึ่งมีอาหารนานาประเภทที่ประกอบขึ้นจากเนื้อวาฬ เป็นต้นว่า ซาชิมิ
ทาคาชิ ทานุมะ สมาชิกพรรค “เจแปนรีสตอเรชัน ปาร์ตี” ระบุในทวิตเตอร์ขณะไปร่วมงานว่า “(โครงการล่าวาฬ) แย้งว่าคำตัดสินของศาลมีผลต่อโครงการล่าวาฬในมหาสมุทรใต้เท่านั้น แต่รัฐบาลญี่ปุ่นอาจขยายขอบเขตปฏิบัติการออกไปในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งจะไม่ได้รับการยอมรับ