เอเอฟพี - ศาลโลกมีคำสั่งวันนี้ (31 มี.ค.) ให้ญี่ปุ่นยุติการล่าวาฬประจำปีในแถบขั้วโลกใต้ โดยระบุในคำตัดสินครั้งสำคัญนี้ว่า โครงการนี้เป็นการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ ที่อ้างจุดประสงค์ทางวิทยาศาสตร์บังหน้า
ปีเตอร์ ทอมกา ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มีคำสั่งว่า “ญี่ปุ่นจะต้องเพิกถอนการมอบอำนาจ คำอนุญาต หรือใบอนุญาตใดๆ ก็ตามก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับ (โครงการวิทยาศาสตร์) JARPA II และจะต้องระงับการอนุญาตใดๆ ก็ตามนับจากนี้ไป”
ทอมกาชี้ว่า “หลักฐานไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า โครงการนี้มีรูปแบบและการปฏิบัติที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ (ทางวิทยาศาสตร์) ตามที่มีการกล่าวอ้าง”
ขณะที่ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ดำเนินโครงการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ โดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามในปี 1986 ของคณะกรรมาธิการล่าวาฬระหว่างประเทศ (IWC) ญี่ปุ่นยืนกรานว่า โครงการของพวกเขามีวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ยอมรับว่า เมื่อกลับไปถึงญี่ปุ่นเนื้อวาฬจะถูกนำไปทำเป็นอาหาร
โตเกียวถูกกล่าวหาว่า อาศัยช่องโหว่ของข้อห้ามล่าวาฬเพื่อการค้าปี 1986 ซึ่งอนุญาตให้ล่าวาฬเพื่อรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้
ทางด้านกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ออกมาแสดงความยินดีกับคำตัดสิน ซึ่งญี่ปุ่นกล่าวว่าจะน้อมรับปฏิบัติตาม แม้จะ “รู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง”
ฝ่าย บิล แคมป์เบล ซึ่งเป็นทนายความของออสเตรเลีย กล่าวว่าเขายินดีกับคำพิพากษาของศาลเช่นกัน และย้ำว่าไม่ต้องการให้คำตัดสินส่งผลต่อสายสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
ออสเตรเลียเผยว่า นับตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา ญี่ปุ่นได้ฆ่าวาฬไปแล้วกว่า 10,000 ตัว ในโครงการนี้ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญานานาชาติ และเป็นการฉีกสัญญาที่ญี่ปุ่นให้ไว้ว่าจะอนุรักษ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล และสิ่งแวดล้อมที่เป็นถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ
พีท เบธูน อดีตนักเคลื่อนไหวพร้อมกับกลุ่มอนุรักษ์แนวทางแข็งกร้าว “ซีเชพเพิร์ด” ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำญี่ปุ่นนาน 5 เดือน หลังจัดการประท้วง ถึงกับแสดงอาการดีใจสุดขีดภายหลังที่ศาลมีคำตัดสิน