รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจนนิเฟอร์ ซากี โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันจันทร์ (21 เม.ย.) รัฐบาลอเมริกันจะ “ตัดสินใจครั้งสำคัญ” ในไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย หากรัฐบาลมอสโกภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินยังคงไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่นครเจนีวา เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในยูเครน
หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญ รวมถึงการที่มอสโกต้องออกโรงเรียกร้องอย่างชัดเจน ให้บรรดากลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนที่นิยมรัสเซีย ยอมยุติการยึดครองที่ทำการรัฐบาลและจุดตรวจต่างๆทางภาคตะวันออกของยูเครน และหันมาต่อสู้ตามกระบวนการทางการเมืองที่ชอบธรรมเพื่อแลกกับการนิรโทษกรรม
ท่าทีล่าสุดจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากสมาชิกสภาคองเกรสส์หลายราย เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซีย รวมถึงสถาบันการเงินสำคัญๆ ของแดนหมีขาว เพื่อบีบให้ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียยอมถอนกำลังทหารกว่า 40,000 นายออกจากพรมแดนยูเครนและยอมยุติความพยายามใดๆในการรุกรานอธิปไตยของยูเครนเพิ่มเติม หลังรัสเซียทำการผนวก “ไครเมีย” ไปแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี บ็อบ คอร์เกอร์ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในฐานะกรรมาธิการต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “มีต เดอะ เพรส” ทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีในวันอาทิตย์ (20) โดยระบุว่าสหรัฐฯ และโลกตะวันตกกำลังจะ “สูญเสียพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน” ให้กับรัสเซีย พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการคว่ำบาตรหลายประการที่รัฐบาลโอบามาประกาศบังคับใช้ต่อรัสเซียไปแล้วก่อนหน้านี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงที่จะหยุดยั้งรัสเซียจากการรุกรานยูเครน
“เราจะเสียดินแดนฝั่งตะวันออกทั้งหมดของยูเครนอย่างแน่นอน หากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงดำเนินบทบาทต่อวิกฤตนี้ตามแนวแนวทางที่เป็นอยู่” ส.ว.คอร์เกอร์กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันจันทร์ (21) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ร้องขอทางโทรศัพท์ให้จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯช่วยกดดันรัฐบาลใหม่ในกรุงเคียฟของยูเครนที่มีจุดยืน “โปรตะวันตก” ให้ยุติการยั่วยุใดๆ ที่จะนำไปสู่การนองเลือดขณะที่เคร์รีได้ร้องขอให้ลาฟรอฟยอมช่วยเหลือ “อิมรา ครัต” นักข่าวชาวยูเครน ที่ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียจับตัวไป