รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ชัค เฮเกิล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯสั่งการในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ให้เพนตากอนเร่งปรับโครงสร้างการทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการค้นหาเหล่าทหารอเมริกันที่ “สูญหาย” ระหว่างถูกส่งไปสู้รบในสงครามต่างแดน
ท่าทีล่าสุดของเฮเกิลวัย 67 ปี ซึ่งเข้ารับหน้าที่นายใหญ่แห่งเพนตากอนคนที่ 24 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วมีขึ้น หลังสภาคองเกรสเพิ่มแรงกดดันต่อกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้เร่งค้นหาทหารอเมริกันอีกกว่า 83,000 คนที่ยังคงสูญหายจากการไปปฏิบัติภารกิจในสมรภูมิต่างแดน โดยในจำนวนนี้ ราว 73,000 คนเป็นกำลังพลของสหรัฐฯ ที่สูญหายไปในช่วง “สงครามโลกครั้งที่ 2”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ใช้งบประมาณราว 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,240 ล้านบาท) ต่อปีในภารกิจการค้นหาและพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อร่างไร้วิญญาณและโครงกระดูกที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นของทหารอเมริกัน แต่ทว่าที่ผ่านมา เพนตากอนสามารถพิสูจน์ทราบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆได้เพียง “ปีละ 70 ราย” เท่านั้น ทั้งที่จำนวนทหารอเมริกันที่สูญหายไปในต่างแดนยังมีจำนวนอีกกว่า 83,000 คน
ล่าสุด ทางสภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้กดดันให้เพนตากอนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยตั้งเป้าให้ภารกิจการค้นหาและพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของทหารอเมริกันที่สูญหายเพิ่มเป็น “ปีละ 200 คน” โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2015 ที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนตุลาคมนี้
“เราจะเร่งทำทุกวิถีทางที่เราสามารถทำได้เพื่อค้นหาและนำทหารอเมริกันที่สูญหายกลับบ้าน” เฮเกิลกล่าว พร้อมเผยว่าเขาได้สั่งการให้มีการบูรณาการหน่วยงานหลายแห่งภายในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาทหารที่สูญหายในต่างแดนเข้าด้วยกัน โดยหน่วยงานใหม่ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักเพียงหน่วยงานเดียวต่อภารกิจดังกล่าวนี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้บริหารสูงสุดที่เป็น “พลเรือน”
อย่างไรก็ดี ความหวังของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในการขอการสนับสนุนด้านงบประมาณเพิ่มเติมจากสภาคองเกรสส์นั้นดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแหล่งข่าวภายในสภาฯ เผยว่า ทางเพนตากอนจะยังคงได้รับงบประมาณราวปีละ 100 ล้านดอลลาร์เท่าเดิมต่อไป สำหรับใช้ในภารกิจดังกล่าว
