เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เรือของออสเตรเลียที่ร่วมปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สตรวจพบสัญญาณความถี่ใต้น้ำ 37.5 กิโลเฮิรตซ์ ซึ่งตรงกับสัญญาณที่ส่งออกมาจากกล่องดำของเครื่องบินโดยสาร และถือว่าเป็น “ความคืบหน้าล่าสุด” ในการแกะรอยเที่ยวบิน MH370 ที่จะสูญหายไปครบ 1 เดือนในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.)
แองกุส ฮุสตัน อดีตผู้บัญชาการกองทัพออสเตรเลียซึ่งรับหน้าที่ควบคุมการค้นหาโบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่สามารถจำกัดพื้นที่ค้นหาในทะเลให้แคบเข้ามา หลังตรวจพบสัญญาณซึ่ง “จุดประกายความหวังว่าเราใกล้จะเจอจุดที่เราต้องการค้นหาเต็มที”
“อุปกรณ์ค้นหาสัญญาณ Ping ที่ผูกติดกับเรือโอเชียน ชิลด์ ของกองทัพออสเตรเลียสามารถตรวจจับสัญญาณที่มีคลื่นความถี่ตรงกับสัญญาณจากกล่องดำเครื่องบินได้” ฮุสตันกล่าว พร้อมกับย้ำว่า “ยังหาเครื่องบินไม่พบ” และต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม
เที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สพาผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 239 ชีวิตออกจากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อเวลาราวเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 8 มีนาคม ก่อนที่สัญญาณเรดาร์จะขาดหายไป
ฮุสตันชี้ว่า ข้อมูลใหม่ที่ได้รับตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาทำให้ “มีความหวัง” อย่างยิ่งว่าจะพบซากเครื่องบินในอีกไม่ช้า
“เราตรวจพบสัญญาณ 2 ครั้งบริเวณตอนเหนือของพื้นที่ค้นหา ครั้งแรกกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกับอีก 20 นาที จากนั้นสัญญาณก็ขาดไป เรือค้นหาจึงได้หักเลี้ยว และพยายามที่จะค้นหาสัญญาณนั้นอีกครั้ง”
“ต่อมาเราพบสัญญาณเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งกินเวลาประมาณ 13 นาที ครั้งนี้เสียงสัญญาณ Ping ที่สะท้อนกลับมา 2 ครั้งได้ยินชัดเจนทีเดียว และมีคลื่นความถี่ตรงกับสัญญาณที่ส่งออกมาจากเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน และอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน”
“อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะสามารถยืนยันได้ว่า สัญญาณที่ตรวจจับได้นั้นมาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370 หรือไม่... ในท้องมหาสมุทรที่อยู่ลึกมากคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้เร็วนัก”
ศูนย์ประสานงานร่วมในการค้นหาเครื่องบิน (JACC) แถลงว่า การค้นหาในวันนึ้ (7) จะกินพื้นที่ราว 234,000 ตารางกิโลเมตร ห่างจากเมืองเพิร์ทไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 2,000 กิโลเมตร โดยมีเครื่องบินทหารเข้าร่วมทั้งหมด 9 ลำ, เครื่องบินพลเรือน 3 ลำ และเรืออีก 14 ลำ