เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของออสเตรเลียยืนยันในวันจันทร์ (7 เม.ย.) เรือของกระทรวงกลาโหมแดนจิงโจ้สามารถจับสัญญาณใต้น้ำล่าสุดอีก 2 ครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณ ping จากกล่องดำของเที่ยวบิน MH370 ถือเป็นความคืบหน้าที่ให้ความหวังมากที่สุด ในการปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลนส์ที่หายปริศนา 1 เดือนเต็ม อย่างไรก็ดี การยืนยันว่าสัญญาณดังกล่าวมาจากโบอิ้ง 777 ลำนี้อย่างแน่นอน อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน
พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน อดีตผู้บัญชาการกองทัพออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการค้นหาเที่ยวบิน MH370 กล่าวเมื่อวันจันทร์ (7) ว่า สัญญาณที่เรือโอเชียน ชิลด์ ของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ตรวจจับได้ถือเป็นความคืบหน้าที่ให้ความหวังมากที่สุดตลอดปฏิบัติการค้นหานี้ และอาจเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“เรามีทั้งภาพบนเรดาร์ และตอนนี้เรายังมีสัญญาณเสียง สำหรับผม สัญญาณเสียงเหมือนมาจากอุปกรณ์บอกตำแหน่งฉุกเฉิน และดูเหมือนเราเข้าใกล้บริเวณที่เราจำเป็นต้องไปถึงเป็นอย่างมากแล้ว”
การปฏิบัติการค้นหานานหนึ่งเดือนที่คว้าน้ำเหลวเรื่อยมา เริ่มมีความหวังอีกครั้งเมื่อ โอเชียน ชิลด์ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเสียงไฮเทคของกองทัพเรืออเมริกัน จับสัญญาณได้ 2 ครั้งๆ แรกในคืนวันเสาร์ (5) และอีกครั้งรุ่งเช้าวันอาทิตย์ (6) ณ บริเวณห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเพิร์ท, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ราว 1,680 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มมากที่สุดที่ MH370 ตกหลังจากสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม
สัญญาณครั้งแรกกินเวลา 2 ชั่วโมง 20 นาทีก่อนเงียบหาย และเรือโอเชียน ชิลด์ วนกลับไปค้นหาสัญญาณอีกครั้ง คราวนี้พบสัญญาณ “ping" 2 ชุดต่างกัน นาน 13 นาที ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณที่ปล่อยจากอุปกรณ์บันทึกการบินและอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน
กล่องดำบันทึกข้อมูลในห้องนักบินอาจให้คำตอบว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับเที่ยวบินดังกล่าว โดยที่จากข้อมูลทั้งหมดเท่าทีมีอยู่ในตอนนี้ ทำให้มีความเชื่อกันว่า เที่ยวบินนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางโดยเจตนาจากเดิมที่มีปลายทางที่ปักกิ่ง
กระนั้น ฮุสตันตั้งข้อสังเกตว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า สัญญาณซึ่งเรือออสเตรเลียจับได้ดังกล่าวมาจาก MH370 จริงๆ และการค้นหาเพื่อยืนยันเรื่องนี้อาจใช้เวลานานหลายวัน
พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน อดีตผู้บัญชาการกองทัพออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการค้นหาเที่ยวบิน MH370 กล่าวเมื่อวันจันทร์ (7) ว่า สัญญาณที่เรือโอเชียน ชิลด์ ของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ตรวจจับได้ถือเป็นความคืบหน้าที่ให้ความหวังมากที่สุดตลอดปฏิบัติการค้นหานี้ และอาจเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“เรามีทั้งภาพบนเรดาร์ และตอนนี้เรายังมีสัญญาณเสียง สำหรับผม สัญญาณเสียงเหมือนมาจากอุปกรณ์บอกตำแหน่งฉุกเฉิน และดูเหมือนเราเข้าใกล้บริเวณที่เราจำเป็นต้องไปถึงเป็นอย่างมากแล้ว”
การปฏิบัติการค้นหานานหนึ่งเดือนที่คว้าน้ำเหลวเรื่อยมา เริ่มมีความหวังอีกครั้งเมื่อ โอเชียน ชิลด์ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเสียงไฮเทคของกองทัพเรืออเมริกัน จับสัญญาณได้ 2 ครั้งๆ แรกในคืนวันเสาร์ (5) และอีกครั้งรุ่งเช้าวันอาทิตย์ (6) ณ บริเวณห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเพิร์ท, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ราว 1,680 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มมากที่สุดที่ MH370 ตกหลังจากสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม
สัญญาณครั้งแรกกินเวลา 2 ชั่วโมง 20 นาทีก่อนเงียบหาย และเรือโอเชียน ชิลด์ วนกลับไปค้นหาสัญญาณอีกครั้ง คราวนี้พบสัญญาณ “ping" 2 ชุดต่างกัน นาน 13 นาที ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณที่ปล่อยจากอุปกรณ์บันทึกการบินและอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน
กล่องดำบันทึกข้อมูลในห้องนักบินอาจให้คำตอบว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับเที่ยวบินดังกล่าว โดยที่จากข้อมูลทั้งหมดเท่าทีมีอยู่ในตอนนี้ ทำให้มีความเชื่อกันว่า เที่ยวบินนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางโดยเจตนาจากเดิมที่มีปลายทางที่ปักกิ่ง
กระนั้น ฮุสตันตั้งข้อสังเกตว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า สัญญาณซึ่งเรือออสเตรเลียจับได้ดังกล่าวมาจาก MH370 จริงๆ และการค้นหาเพื่อยืนยันเรื่องนี้อาจใช้เวลานานหลายวัน