xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯออสซี “ลั่น” หา MH370 ถึงที่สุด ด้าน “นาจิบ” ก็เตรียมบินไปดูวันพุธนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online







เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ของออสเตรเลีย ประกาศในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ว่า การค้นหาเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน MH370 จะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้คำตอบมาอธิบายแก่ครอบครัวของผู้ที่อยู่บนโบอิ้ง 777 ลำนี้ พร้อมกันนั้นเขาก็กล่าวสนับสนุนคำแถลงนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซียที่ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ตกในมหาสมุทรอินเดีย ส่วนทางด้านผู้นำของแดนเสือเหลืองผู้นี้ก็เตรียมเดินทางเยือนแดนจิงโจ้ในวันพุธ (2 เม.ย.) เพื่อไปดูการปฏิบัติการค้นหาของเครื่องบินและเรือนานาชาติด้วยตนเอง

การปฏิบัติการค้นหาหลักฐานทางกายภาพเพื่อยืนยันว่า เที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส (MAS) ที่หายไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ได้ตกในมหาสมุทรอินเดียอย่างไม่มีข้อสงสัยนั้น จวบจนกระทั่งถึงวันจันทร์ (31) ยังคงคว้าน้ำเหลว ถึงแม้ได้พบวัตถุมากมายลอยในทะเลนับแต่ออสเตรเลียโยกย้ายพื้นที่ค้นหาขึ้นไปทางเหนืออีก 1,100 กิโลเมตร ภายหลังได้รับรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากเรดาร์และดาวเทียม ทว่าวัตถุที่พบทั้งหมดเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับเที่ยวบินที่หายไป

กระนั้น นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย แถลงเมื่อวันจันทร์ ภายหลังตรวจเยี่ยมและพบกับสมาชิกฝูงบินในฐานทัพอากาศเพียร์ซ ของเมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ว่า ปฏิบัติการค้นหาจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้คำตอบแก่ครอบครัวผู้โดยสาร

ทั้งนี้ ครอบครัวผู้โดยสารซึ่งสองในสามเป็นชาวจีน ได้วิพากษ์วิจารณ์มาเลเซียอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการบริหารจัดการการค้นหาและการสืบสวนสอบสวน ซึ่งรวมถึงการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยอิงกับการวิเคราะห์หลักฐานจากดาวเทียมว่าMH 370 ตกทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แอ็บบอตต์ได้แก้ต่างให้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ถูกบางฝ่ายกล่าวหาว่าด่วนประกาศข่าวดังกล่าวเร็วเกินไป เนื่องจากยังไม่พบชิ้นส่วนเครื่องบิน และพบภาพสุดท้ายบนจอเรดาร์ที่ระบุว่า เครื่องบินมุ่งหน้าไปทางอินเดีย

นายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ยืนยันว่า มีหลักฐานมากขึ้นที่บ่งชี้ว่า เครื่องบินสูญหายทางใต้ของมหาสมุทรอินเดียจริงๆ
 นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ ของออสเตรเลีย ให้กำลังใจทีมค้นหานานาชาติ หลังจากยืนยันว่าปฏิบัติการค้นหาเที่ยวบิน MH370 จะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ทางการเสือเหลืองนั้นระบุว่า MH 370 หายไปจากเรดาร์ของฝ่ายพลเรือน ภายหลังบินขึ้นจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์เพื่อมุ่งหน้าสู่ปักกิ่งไม่ถึง 1 ชั่วโมง และมีแนวโน้มว่า เครื่องบินลำนี้ออกนอกเส้นทางโดยตั้งใจ ถึงแม้หลังจากตรวจสอบประวัติของลูกเรือทั้ง 12 คน และผู้โดยสารอีก 227 คนบนเครื่องแล้ว เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่พบแรงจูงใจหรือสัญญาณเตือนใดๆ

นอกจากนี้ ทางการจีนก็แสดงท่าทีวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการของมาเลเซียเข่นกัน อย่างไรก็ดี ในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลีฉบับวันจันทร์ (31) ดูมีท่าทีผ่อนคลายลง โดยระบุว่า เป็นที่เข้าใจได้ว่า กัวลาลัมเปอร์ไม่สามารถนำข้อมูลอ่อนไหวทั้งหมดมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

“แม้การจัดการวิกฤตครั้งนี้ของรัฐบาลมาเลเซียค่อนข้างงกๆ เงิ่นๆ แต่เราจำเป็นต้องเข้าใจว่า บางทีนี่อาจเป็นกรณีแปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์การบินพลเรือนของเอเชีย”

ทางด้าน ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมและรักษาการรัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย ซึ่งกลายเป็นโฆษกตัวหลักของแดนเสือเหลืองในการแถลงข่าวเรื่อง MH370 ได้แถลงที่กัวลาลัมเปอร์ในวันจันทร์ว่า นายกรัฐมนตรี ราซัคกำลังจะเดินทางไปเมืองเพิร์ธในวันพุธ โดยจะได้รับฟังการบรรยายอย่างเต็มที่ในเรื่องที่ว่าการปฏิบัติการค้นหากำลังดำเนินไปอย่างไร ตลอดจนอาจจะมีการหารือว่ามีโอกาสอะไรมากน้อยแค่ไหน

ในวันจันทร์เช่นกัน ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลียแถลงว่า เครื่องบิน 10 ลำและเรือ 10 ลำจาก 7 ประเทศ ได้ออกทำการค้นหา ในจำนวนนี้รวมถึงเรือ โอเชียน ชิลด์ของกองทัพรือออสเตรเลียที่ติดตั้งอุปกรณ์แบบใช้เรือลากจูงเพื่อตรวจหาสัญญาณจากกล่องดำ และยานใต้น้ำไร้คนขับ โดยที่อุปกรณ์ไฮเทคทั้ง 2 อย่างซึ่งสหรัฐฯจัดส่งมาให้ใช้นี้ สามารถใช้เซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ค้นหาใต้ทะเลอย่างละเอียด

ทว่า โอเชียน ชิลด์ ต้องใช้เวลาถึง 3 วันจึงจะไปถึงบริเวณค้นหา ท่ามกลางความกังวลว่า พลังงานของแบตเตอรี่ในกล่องดำของ 370 กำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่วันนี้ แม้เรือเอกมาร์ก แมทธิวส์ จากกองทัพเรือสหรัฐฯ เผยว่า แบตเตอรี่อาจมีอายุการใช้งานจริงนานถึง 1 เดือนครึ่ง จากที่กำหนดกันไว้เพียงเดือนเดียวก็ตาม

ขณะที่ นาวาโท วิลเลียม มาร์กส์ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวย้ำว่า จะยังไม่สามารถใช้อุปกรณ์ค้นหาเหล่านี้อย่างได้ผล จนกว่าจะพบหลักฐานชิ้นส่วนเครื่องบิน และถ้าหากไม่สามารถยืนยันจุดที่เครื่องบินตก เจ้าหน้าที่ค้นหาจะต้องใช้อุปกรณ์โซนาร์เพื่อทำแผนที่ก้นมหาสมุทรก่อน ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานมาก

ทางด้านพลเรือจัตวา ปีเตอร์ เลวี ของออสเตรเลียซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังในปฏิบัติการค้นหา เสริมว่า ภารกิจที่มุ่งเน้นในวันจันทร์คือ การค้นหาซากและยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนเครื่องบินและกลับไปค้นหาบริเวณที่อาจเป็นจุดที่เครื่องบินตก

พื้นที่ค้นหาใหม่นั้นอยู่ใกล้เพิร์ทมากขึ้นและสภาพอากาศเอื้ออำนวยขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อยู่ใกล้บริเวณที่กระแสน้ำลากซากและขยะต่างๆ ในมหาสมุทรมารวมกัน

อิริก แวน เซบิลล์ นักสมุทรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์ เวลส์ ระบุว่า พื้นที่ค้นหาอยู่ติดกับสิ่งที่เรียกว่าแพขยะ ทว่า ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือพื้นที่ค้นหายังคงมีความกว้างขวางพอๆ กับประเทศโปแลนด์หรือมลรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น