เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของเม็กซิโกเปิดเผยวานนี้ (29 มี.ค.) ว่าพบเด็กมากกว่า 370 คนถูกขบวนการลอบนำผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทอดทิ้ง ขณะพยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯ
สถาบันการอพยพแห่งชาติเม็กซิโก (ไอเอ็นเอ็ม) ระบุว่า ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ของเดือนมีนาคมได้ตรวจพบเด็กจำนวนมากซึ่งเดินทางมาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอเมริกากลาง
ไอเอ็นเอ็มระบุในคำแถลงว่า ในจำนวนดังกล่าว มีเด็กราว 163 คนถูกทอดทิ้ง เนื่องจากไม่มีสมาชิกในครอบครัว หรือคนรู้จักที่เป็นผู้ใหญ่ร่วมเดินทางมาด้วย
ในหลายกรณี เด็กๆ ถูกคนนำทางที่ได้รับการว่าจ้างในอัตราตั้งแต่ 3,000 ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทอดทิ้งไว้ตามจุดผ่านแดนที่มีสภาพอันตราย และดูไม่ปลอดภัย
ไอเอ็นเอ็มบอกว่า ในช่วงวันที่ 17 ถึง 24 มีนาคมที่ผ่านมา พบเด็กเหล่านี้ในพื้นที่ 14 รัฐ ทว่าไม่ได้แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับอายุและสัญชาติของพวกเขา
คำแถลงของสถาบันแห่งนี้เผยว่า “เด็กๆ มีอาการอ่อนเพลียขั้นรุนแรง บาดเจ็บที่เท้า ขาดน้ำ และจำอะไรไม่ได้ ทั้งยังไม่ทราบว่าพวกเขาถูกทิ้งไว้ที่ไหน”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของแดนจังโก้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่า เป็นพวกลักลอบค้ามนุษย์ที่อาจมีส่วนพัวพันไว้ได้ 9 คน
นอกจากนี้ ไอเอ็นเอ็มยังระบุว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จำนวนเด็กที่ลักลอบเข้าเมืองทางช่องผ่านแดนในเม็กซิโกตามลำพัง ได้ทะยานสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในแต่ละปี จะมีผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายราว 140,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชาติอเมริกากลาง พยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯ ผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคอันตรายในเม็กซิโก
ทั้งนี้ ผู้อพยพจำนวนมากมักมีเด็กร่วมเดินทางมาด้วย และอาศัยไกด์ผีนำทางข้ามชายแดนเข้าไปยังสหรัฐฯ
บ่อยครั้งที่ผู้อพยพเหล่านี้ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งอาชญากรที่เข้ามาจี้ปล้น ขู่กรรโชก ข่มขืน ลักพาตัว และฆาตกรรม