เอเอฟพี – ผู้คนเรือนหมื่นพากันหลั่งไหลลงสู่ท้องถนนสายต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) เพื่อผลักดันให้มีการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมอบสิทธิพลเมืองอเมริกันให้แก่ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายกว่า 11 ล้านคน
ในการเคลื่อนไหวพร้อมกันทั่วประเทศครั้งนี้ มีผู้ประท้วงออกมาเดินขบวนในเมืองต่างๆ 160 เมือง ที่นิวยอร์ก ผู้ชุมนุมราว 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวเอเชีย ฮิสแปนิก และอาหรับ ได้รวมตัวกันในนครนิวยอร์ก ก่อนจะเคลื่อนกำลังไปที่สะพานบรูกลิน อันเป็นจุดรวมพลที่สำคัญ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเคลื่อนขบวนไปที่ฮอลลีวูด
“สิ่งที่เราต้องการคือการเอาชนะผู้ที่คัดค้านเราอย่างสันติ เขาจะต้องล้มเลิกความคิดที่จะขัดขวางเรา” ดานิค มาร์ติเนซ กล่าว ทั้งนี้เขาคือชาวฮอนดูรัสวัย 30 ปี ผู้ที่อาศัยและทำงานในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายมาเกือบ 10 ปีแล้ว
การชุมนุมเดินขบวนคราวนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า การเดินขบวนเพื่อศักดิ์ศรีและความเคารพ จัดขึ้นโดยองค์การพันธมิตรผู้อพยพแห่งนิวยอร์ก และกลุ่มอื่นๆ ที่สนับสนุนการให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารประจำตัวได้รับสถานะถูกต้องตามกฎหมาย
บรรดาผู้จัดการชุมนุมระบุว่า พวกเขาคาดหวังที่จะหาเสียงผู้สนับสนุนให้ได้ 130,000 เสียง เพื่อใช้ผลักดันให้รัฐสภาอเมริกันออกกฎหมายที่มีเนื้อหาครอบคลุม ให้ผู้คนกว่า 11 ล้านคนที่อยู่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย และต้องหลบๆ ซ่อนๆ ได้รับโอกาสเป็นพลเมืองอเมริกันเต็มตัว
“ที่นี่ในนิวยอร์ก เรามีพันธกิจแบบพิเศษ” บิล เด บลาซีโอ ผู้สมัครเป็นนายกเทศมนตรี จากพรรคเดโมแครตกล่าว
“เพราะเราเป็นเมืองของผู้อพยพ และเรารู้สึกภูมิใจกับมัน เราต้องเป็นผู้นำร่อง”
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ ประมาณการว่า ในนิวยอร์กเพียงเมืองเดียวมีแรงงานผิดกฎหมายถึงครึ่งล้านคน โดยกลุ่มคนที่ไหลทะลักเข้ามาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวฮิสแปนิก ซึ่งโดยมากมาจากเม็กซิโก และมีอีกไม่น้อยเดินทางมาจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา พยายามจะเปิดทางให้ผู้อพยพสถานะผิดกฎหมายเรือนล้าน ได้รับสิทธิในการเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่การเจรจากับพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในรัฐสภายังคงไร้ความคืบหน้า
ที่ลอสแองเจลิส เมืองที่มีประชากรอเมริกันเชื้อสายเม็กซิโกเป็นจำนวนมหาศาล ฟรันซิสโก คาเบรรา ชาวเม็กซิโกโดยกำเนิดกล่าวว่า “เรามาเพื่อทำงาน และนั่นคือทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้เป็นภาระ แต่แค่พยายามหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว”
“ปัญหาของเราคือความยากจน พรรครีพับลิกันควรจะตระหนักว่า เรามาจะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ”
