หน่วยงานในพื้นที่ระนองระบุโรฮิงญาอพยพกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่

ระนอง - อนุกรรมการป้องกันและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ลงพื้นที่ระนอง ตรวจการปฎิบัติงานสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด และการป้องกันประเทศ หน่วยงานในพื้นที่ระบุการอพยพเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อความมั่นคงของประเทศ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (6 มี.ค.) พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการกองบัญชาการ กองทัพไทย และประธานอนุกรรมการป้องกันและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และคณะ เพื่อเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด และการป้องกันประเทศ รวมทั้งตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานในพื้นที่ จ.ระนอง โดยมีนายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

จากนั้นเดินทางเข้ารับฟังการบรรยายสรุปการปฎิบัติงานจากกองกำลังเทพสตรี และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนแยก 1 ที่ห้องยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 โดยมีหน่วยงานต่างๆ ร่วมสรุปสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบัน ซึ่งในที่ประชุมได้ชี้แจงสถานการณ์การอพยพเข้าเมืองของกลุ่มชาวโรฮิงญา กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อความมั่นคงของประเทศ

สืบเนื่องจากการเดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทยมีการกระทำเป็นขบวนการ โดยมีนายหน้า และเจ้าหน้าที่ไทยบางคนเป็นผู้ให้การสนับสนุน โดยชาวโรฮิงญานิยมเดินทางเข้าไทยก่อนจะเดินทางออกไปประเทศที่สาม โดยมีนายหน้าชาวบังกลาเทศ ชาวพม่า และชาวไทย มีการประสานงานผ่านคนขับเรือ และช่างเครื่องที่นำพาชาวโรฮิงญา ร้อยละ 80 มาจากต้นทางในรัฐจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ และร้อยละ 20 เป็นชาวพม่า เชื้อสายโรฮิงญา จากจังหวัดมองคอ รัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ซึ่งการเดินทางตามเส้นทางทะเลอันดามัน และหลบหนีเข้าเมืองมีอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณจะทวีคูณขึ้นในทุกปี