“ซิซี” ผบ.ทหารอียิปต์ประกาศลาออก เตรียมลงชิง “ประธานาธิบดี” กลางปีนี้

เอเจนซีส์ - จอมพล อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอียิปต์ ที่คาดหมายว่าจะมีขึ้นก่อนเดือนมิถุนายน โดยมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เขาจะคว้าชัยชนะอย่างง่ายดาย

“วันนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมปรากฏตัวต่อหน้าท่านในเครื่องแบบทหาร หลังจากที่ผมตัดสินใจยุติบทบาทในกองทัพและกระทรวงกลาโหม และขอเสนอตัวเองชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งอียิปต์ และมีเพียงการสนับสนุนจากพ่อแม่พี่น้องเท่านั้นที่จะทำให้ผมได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้” ซิซีแถลงทางทีวีเมื่อวันพุธ (26)

ทั้งนี้ กองทัพบกได้แต่งตั้งพลเอก เซ็ดกี โซบี อดีตเสนาธิการทหาร รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบกแทนซิซี

ตั้งแต่ที่อยู่เบื้องหลังการปลดโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ภายหลังนโยบายในแนวทางอิสลามิสต์ของประธานาธิบดีผู้มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีเพียงคนเดียวของอียิปต์ผู้นี้ ได้ก่อให้เกิดการประท้วงต่อต้านของประชาชนจำนวนมาก ซิซีก็กลายเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดในคณะบริหารชั่วคราวที่ปกครองประเทศนับจากนั้น

หากซิซีได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปตามคาดหมาย ก็จะนำเอาแดนไอยคุปต์หวนคืนสู่ยุคที่ปกครองโดยคนจากกองทัพ ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมายาวนานกว่า 60 ปี และเพิ่งขาดช่วงไปในยุคการบริหารประเทศนาน 1 ปีของมอร์ซี

ชาวอียิปต์ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่พวกอิสลามิสต์ต่างให้การสนับสนุนซิซีอย่างล้นหลาม เนื่องจากมองว่า เขามีความสามารถฟื้นเสถียรภาพประเทศที่เผชิญวิกฤตมากว่า 1 ปี ที่ทำให้นักลงทุนและนักท่องเที่ยวหนีหายไปจากอียิปต์ นอกจากนั้น ซิซียังสามารถดึงดูดความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐพันธมิตรในอ่าวอาหรับที่อัดฉีดเงินให้อียิปต์นับหมื่นล้านดอลลาร์นับแต่มอร์ซีถูกปลด

ตรงข้ามกับที่กลุ่มอิสลามิสต์ที่มองว่า ซิซีเป็นหัวโจกสำคัญที่ทำรัฐประหารโค่นมอร์ซี ทั้งนี้ กลุ่มภราดรภาพมุสลิม ของมอร์ซีซึ่งเวลานี้หลบลงใต้ดินยังเตือนว่า อียิปต์ไม่มีวันสงบสุขภายใต้การบริหารประเทศของซิซี ขณะเดียวกัน ก็มีพวกเสรีนิยมที่กำลังวิตกว่าซิซีจะกลายเป็นจอมเผด็จการเช่นเดียวกับผู้นำรัฐบาลทหารคนก่อนๆ ในอดีต

ระหว่างแถลงทางทีวีในวันพุธ ซิซีประกาศกวาดล้างการก่อการร้าย ซึ่งหมายถึงการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่ระบาดหนักหลังจากมอร์ซีถูกปลด

อย่างไรก็ดี เขาออกตัวว่า ไม่สามารถสร้าง “สิ่งมหัศจรรย์” ให้กับประเทศได้ แต่สัญญาว่า จะทุ่มเททำงานเพื่อแก้ไขปัญหา และว่าความท้าทายเฉพาะหน้าของอียิปต์คือ เศรษฐกิจอ่อนแอและหนุ่มสาวมากมายยังตกงาน

เวลานี้มีเพียง ฮัมดีน ซาบาฮี นักการเมืองฝ่ายซ้ายที่ได้คะแนนอันดับ 3 ในการเลือกตั้งปี 2012 คนเดียวเท่านั้น ที่ประกาศชัดเจนว่าจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคราวต่อไปที่คาดว่า จะมีขึ้นก่อนเดือนมิถุนายน

สำหรับ อเมริกา ชาติผู้ให้ความช่วยเหลือทางทหารรายสำคัญแก่อียิปต์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของซิซีว่า วอชิงตันไม่สนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง แต่มุ่งเรียกร้องให้อียิปต์จัดการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และโปร่งใส ซึ่งผู้สมัครทุกคนสามารถหาเสียงได้อย่างอิสระ ปราศจากการล่วงละเมิดหรือคุกคามใดๆ และชาวอียิปต์ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่

ผู้สังเกตการณ์จำนวนมากกล้าฟันธงตั้งแต่วันนี้ว่า ซิซีจะชนะการเลือกตั้งและขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปอย่างแน่นอน ทว่าเขาจะต้องเป็นผู้นำของประเทศที่เผชิญความวุ่นวายไม่รู้จบรู้สิ้น นับแต่การลุกฮือของประชาชนขึ้นมาโค่นล้มผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหารคนก่อน นั่นคือ ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค เมื่อปี 2011 มิหนำซ้ำอียิปต์ในปัจจุบันยังเผชิญความแตกแยกภายในร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ หลังจากกองทัพปลดมอร์ซี

ทั้งนี้ในช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมา กำลังตำรวจและทหารของอียิปต์ได้สังหารผู้สนับสนุนมอร์ซีและกลุ่มภราดรภาพมุสลิมไปหลายร้อยคน ท่ามกลางการสนับสนุนของประชาชนซึ่งไม่นิยมอิสลามิสต์ที่เชื่อว่า การปราบปรามบุคคลเหล่านี้จะช่วยให้ประเทศกลับคืนสู่เสถียรภาพ แต่ในเวลาเดียวกันนั้นกองกำลังความมั่นคงก็กลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีด้วยระเบิดและกระสุนจากพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์

เมื่อวันพุธ นักศึกษาคนหนึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับตำรวจระหว่างประท้วงในมหาวิทยาลัยไคโร ซึ่งมีขึ้นหลังศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ประหารสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม 529 คนเมื่อวันจันทร์ (24)

ปัจจุบันผู้นำเกือบทั้งหมดของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมถูกคุมขัง สำหรับมอร์ซีนั้นถูกตั้งข้อหาที่อาจมีโทษถึงประหารชีวิต

นอกจากนี้ ในวันพุธ อัยการรัฐยังมีคำสั่งให้ดำเนินคดีกับสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม 919 คนในข้อหาร้ายแรง เป็นต้นว่า ฆาตกรรมและก่อการร้ายในจังหวัดมินยา จังหวัดเดียวกับที่มีคำพิพากษาประหารชีวิตเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเรียกเสียงวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั่วโลก รวมถึงมหาอำนาจตะวันตก

จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลใจอย่างมากต่อการตัดสินใจของศาลอียิปต์ซึ่งมีขึ้นภายหลังการพิจารณาคดีที่รวดเร็วผิดปกติ และเรียกร้องให้รัฐบาลเฉพาะการของอียิปต์เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าว รวมทั้งรับรองว่า จะมีการดำเนินการอย่างเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา

เช่นเดียวกับ เฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานคณะมนตรีแห่งยุโรปขานรับว่า ตกใจกับคำตัดสินของศาลอียิปต์เช่นเดียวกัน และเรียกร้องให้ทางการอียิปต์ฟื้นหลักนิติธรรม