xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องบินตรวจการณ์-เรือสอดส่องจุดพบวัตถุต้องสงสัย แต่ยังไร้ร่องรอย MH370 ในมหาสมุทรอินเดีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online





เอเอฟพี - เหล่าเครื่องบินตรวจการณ์สอดส่องเสาะหาในพื้นที่ห่างไกลและมีพายุของมหาสมุทรอินเดียในวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) หลังภาพถ่ายดาวเทียมตรวจพบวัตถุ 2 ชิ้นลอยอยู่กลางทะเล ซึ่งทั้งออสเตรเลียและมาเลเซียระบุเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นเศษซากของเที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสุญไปเมื่อ 12 วันก่อน ขณะที่เรือเดินสมุทรของนอร์เวย์ไปถึงตำแหน่งดังกล่าวแล้ว แต่ด้วยเป็นช่วงพลบค่ำ จึงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา และตอนนี้ยังไม่พบวัตถุใดๆ

ออสเตรเลียเปิดเผยว่าภาพถ่ายทางดาวเทียมจับภาพวัตถุ 2 ชิ้น หนึ่งในนั้นมีขนาดกว้าง 24 เมตร ขณะที่ชิ้นที่ 2 มีความยาวประมาณ 5 เมตร ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย เพิ่มความหวังสำหรับคลายปริศนาการหายไปอย่างลึกลับของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ขณะที่ญาติๆ ของผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนบนเครื่อง มีปฏิกิริยาที่ผสมผสาน ด้วยบางส่วนบอกว่าไม่เชื่อข่าวนี้และยังหวังว่าบุคคลอันเป็นที่รักยังมีชีวิตรอด

“ตอนนี้เรามีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ” ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย กล่าวระหว่างแถลงสรุปความคืบหน้าวิกฤตเครื่องบินสูญหายประจำวัน “ยังมีงานต้องทำอีกมาเพื่อส่งทรัพยากรไปยังพื้นที่นั้น และเราจะดำเนินการกันตลอดทั้งคืน”

เครื่องบินค้นหา 4 ลำ ซึ่งรับผิดชอบการค้นหาทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ขึ้นบินออกจากออสเตรเลีย มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ท ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 2,500 กิโลเมตร บริเวณที่จุดเล็กๆถูกดาวเทียมถ่ายภาพได้

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานความปลอดภัยทางทะเลออสเตรเลีย (เอเอ็มเอสเอ) เครื่องบินทั้ง 4 ซึ่งเป็นของออสเตรเลีย 2 ลำ นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ ชาติละลำ ที่บินสอดส่องครอบคลุมพื้นที่กว่า 23,000 ตารางกิโลเมตร ยังไม่พบเห็นเศษซากใดๆ ก่อนตัดสินในระงับการค้นหา หลังจากก่อนหน้านี้บอกว่าสภาพอากาศที่มีฝนตกและปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆทำให้ทัศนวิสัยถูกจำกัด
วัตถุต้องสงสัย 2 ชิ้นในมหาสมุทรอินเดีย ที่ดาวเทียมของออสเตรเลียตรวจจับได้ เชื่ออาจเป็นซากของเที่ยวบิน MH370 และเวลานี้เครื่องบินและเรือถูกส่งเข้าปฏิบัติการค้นหาแล้ว
มีรายงานว่าเรือเดินสมุทรสัญชาตินอร์เวย์ลำหนึ่งก็ไปถึงจุดที่ดาวเทียมถ่ายภาพไว้ได้แล้ว แต่ก็เป็นเวลาช่วงพลบค่ำจึงยังไม่สามารถค้นหาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรือเดินสมุทรอีกลำและเรือ HMAS Success ของกองทัพเรือกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้วเช่นกัน

แน่นอนว่ามันจุดประกายความหวังในการคลายปริศนาการสูญหายไปอย่างลึกลับของโบอิ้ง777 ขึ้นมาอีกครั้ง ตามหลังการชี้นำที่ไม่เป็นจริงหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทาง ฮิชามมุดดิน เตือนว่าคงต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการพิสูจน์ซากที่พบครั้งนี้ว่าเป็นชิ้นส่วนของ MH370 หรือไม่

เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บรรทุกผู้โดยสาร 227 คนและลูกเรือ 12 คน สูญหายไปในตอนเช้าของวันเสาร์ที่ 8 มีาคม หลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเหนือทะเลจีนใต้อย่างกะทันหันขณะที่กำลังมุ่งสู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยทีมสืบสวนเชื่อว่ามีการจงใจเบี่ยงเส้นทางการบิน แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครหรือว่าเครื่องบินลำนี้ไปสิ้นสุดที่ใด

ภาพถ่ายดาวเทียมที่ถ่ายไว้ได้ตั้งแต่วันเสาร์ (15) ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย ที่บอกกับรัฐสภาว่าพบข้อมูลใหม่ที่เชื่อถือได้ เกี่ยวกับวัตถุ 2 ชิ้นลอยอยู่กลางทะเลจากภาพถ่ายดาวเทียม แต่ย้ำว่าความเกี่ยวข้เองใดๆกับเที่ยวบิน MH370 ยังต้องรอยืนยันอีกครั้ง

เอเอ็มเอสเอได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังว่า วัตถุชิ้นใหญ่ที่สุดที่พบมีความยาว 24 เมตร ขณะที่ชิ้นที่ 2 มีความยาวประมาณ 5 เมตร โดย จอห์น ยัง เจ้าหน้าที่ของเอเอ็มเอสเอ ระบุว่า “ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าวัตถุทั้งสองชิ้นคืออะไร ผมคิดว่าวัตถุเหล่านี้มีขนาดใหญ่พอสมควร และลอยกระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงเหนือผิวน้ำเมื่อถูกคลื่นกระทบ”

ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า การที่นายแอ็บบอตต์ออกมาเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวด้วยตนเองทำให้มันมีความน่าเชื่อถือขึ้น แต่ก็เตือนว่าเป็นเรื่องยากอย่างมากในการค้นหาวัตถุๆหนึ่งในมุมห่างไกลของโลกที่ขึ้นชื่อด้านกระแสน้ำรุนแรง “กระแสน้ำที่นั่นคือหนึ่งในกระแสน้ำรุนแรงที่สุดในโลก มันเคลื่อนที่เร็วกว่า 1 เมตรต่อวินาทีเลยทีเดียว” กัน เจียนปิง นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากมหาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฮ่องกงกล่าว

ด้าน คาจ ฟรอสเทลล์ อดีตเจ้าหน้าที่ขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ บอกว่าปฏิบัติการค้นหาด้วยเครื่องบินถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของเวลา ด้วยแค่มุ่งหน้าสู่พื้นที่ดังกล่าวก็ใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมงแล้ว “เวลาในการค้นหาถูกจำกัดพอควร เพราะว่าคุณจำเป็นต้องเหลือน้ำมันสำหรับบินกลับ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็นต้องส่งเรือไปที่นั่นด้วย”

มาเลเซียถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆทั้งด้านการสืบสวนและการค้นหาที่ถูกมองว่าไม่ปะติดปะต่อและสับสน โดยเฉพาะจากญาติๆของผู้โดยสาร ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นชาวจีน ที่กล่าวหาเจ้าหน้าที่และสายการบินแห่งชาติแดนเสือเหลืองว่าให้ข้อมูลข่าวสารไม่เพียงพอและบิดเบือน

ในส่วนของครอบครัวของผู้โดยสารที่รวมตัวกันอยู่ ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง แสดงปฏิกิริยาที่ผสมผสานต่อข่าวการตรวจพบวัตถุ 2 ชิ้นโดยดาวเทียมของออสเตรเลีย ท่ามกลางความหวังอันน้อยนิดที่ว่าเครื่องบินอาจไปลงจอดที่ไหนสักแห่ง หลังหายสาบสูญไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

“ลูกชายผมยังมีชีวิตอยู่ ลูกชายผมยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่เชื่อข่าวนี้” เหวิน หวันเฉิง วัย 63 ปีบอก ส่วนคนอื่นๆก็อ้างถึงการพบเจอวัตถุต้องสงสัยคราวก่อนๆ ที่ลงเอยด้วยคำปฏิเสธ “ผมเหนื่อยหน่ายที่ได้ยินข่าวสารใหม่ๆ ที่ไม่นานก็จะถูกปฏิเสธ” ชายคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพี ด้วยอารมณ์โกรธ
กำลังโหลดความคิดเห็น