เอเอฟพี - ญาติๆ ของผู้โดยสารชาวจีนที่อยู่บนเครื่องบินโดยสารซึ่งสูญหายไปอย่างไม่มีร่องรอย พยายามบุกฝ่าผ่านประตูเข้าไปในห้องแถลงข่าวประจำวันที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดของทางการมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันพุธ (19 มี.ค.) ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงบรรยากาศความหงุดหงิดผิดหวังที่แวดล้อมการค้นหาอันไร้ผลที่ดำเนินมาเป็นเวลา 12 วันแล้ว
ญาติๆ จำนวนไม่กี่คนของผู้โดยสารเที่ยวบิน 370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สเหล่านี้ ยังพากันตะโกนและร้องไห้คร่ำครวญ ขณะที่คลี่แผ่นป้ายประท้วงซึ่งเขียนข้อความว่า “เอาครอบครัวของเราคืนมา” พวกเขาพากันกล่าวหาทางการผู้รับผิดชอบของแดนเสือเหลืองว่า ปิดบังหน่วงเหนี่ยวข้อมูลข่าวสาร และไม่ได้ทำอะไรมากเพียงพอในการค้นหาเครื่องบินที่หายไปนี้
การประท้วงอันสะเทือนอารมณ์คราวนี้บังเกิดขึ้นไม่นานนักก่อนที่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของมาเลเซียจะเดินทางถึงห้องแถลงข่าว ซึ่งพวกเขาบอกว่ายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในเรื่องการวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้โบอิ้ง 777 ลำนี้สูญหาย
“พวกเขาให้ข่าวไม่เหมือนกันเลยสักวัน ตอนนี้เครื่องบินอยู่ที่ไหน? พวกเราทนไม่ไหวแล้ว!” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น ขณะที่พวกผู้สื่อข่าวเข้ามาล้อมเธอและญาติๆ ผู้โดยสารคนอื่นๆ และพยายามกันพวกเขาให้ถอยไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาระงับเหตุอลหม่านตรงหน้าห้องแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับท่าอากาศยานระหว่างประเทศกัวลาลัมเปอร์ สมาชิกของครอบครัวผู้สูญหายเหล่านี้ถูกพาตัวออกไปจากห้อง โดยที่มีอยู่ 2 คนถูกบังคับฉุดลากออกไป ขณะที่พวกเขายังแสดงการประท้วงและตะโกนลั่น
ไม่นานนักหลังจากนั้น ทางการมาเลเซียก็เปิดการแถลงข่าวประจำวันซึ่งใช้เวลาสั้นกว่าที่เคยเป็นมา โดยที่เจ้าหน้าที่หลายคนระบุว่าการสืบสวนสอบสวนกำลังเน้นหนักไปที่ตัว ซอฮารี อาหมัด ชาห์ นักบินที่ 1ของเที่ยวบิน MH370 ที่หายไป
พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเหล่านี้บอกว่า คณะผู้สืบสวนสอบสวนตรวจพบว่ามีข้อมูลบางอย่างถูกลบออกไปจากเครื่องจำลองการบิน ของซอฮารี ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนก่อนที่เครื่องบินที่เขาเป็นกัปตันจะสูญหายในตอนก่อนรุ่งสางของวันที่ 8 มีนาคม เครื่องจำลองการบินนี้ติดตั้งอยู่ที่บ้านของนักบินผู้นี้ และถูกเจ้าหน้าที่ยึดมาตรวจสอบ
“ข้อมูลบางอย่างถูกลบไปจากเครื่องจำลองการบิน และทีมงานนิติวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการกู้ข้อมูลเหล่านี้” ฮิชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมและรักษาการรัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซียแถลง
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่มาเลเซียไม่ได้ให้รายละเอียดของข้อมูลที่หายไป อีกทั้งยังคงย้ำว่าอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป และยังต้องถือว่า ซอฮารี เป็นผู้บริสุทธิ์
ฮิชัมมุดดิน กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนของมาเลเซียเอง รวมทั้งข้อมูลการตรวจสอบภูมิหลังที่ได้รับจากประเทศอื่นๆ จนถึงเวลานี้ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ใดๆ เลยว่าผู้โดยสาร 227 คน ซึ่งเป็นคนจีนราวสองในสาม คือ 153 คน บนเที่ยวบินที่หายไปนี้ มีอะไรที่น่าสงสัย
เครื่องบินลำนี้ยังมีลูกเรืออีก 12 คน
รักษาการรัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย พูดถึงเหตุชุลมุนวุ่นวายก่อนการแถลงข่าวว่า “ผมเข้าใจดีว่าพวกเขากำลังเจอกับอะไรบ้าง อารมณ์ก็ย่อมจะต้องพลุ่งพล่าน”
แต่เขากล่าวว่ายังไม่มีรายงานความคืบหน้าจากการปฏิบัติการค้นหาของนานาชาติ ในอาณาบริเวณรูปเสี้ยววงกลมขนาดพื้นที่เท่าทวีปออสเตรเลีย และมีทั้งส่วนที่เป็นแผ่นดินและส่วนที่เป็นทะเล
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ อินโดนีเซียออกมาแถลงยอมรับว่า เพิ่งเปิดไฟเขียวอนุญาตให้เครื่องบินตรวจการณ์จากออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย บินผ่านดินแดนของตนได้ และขณะเดียวกันก็โอดว่ากองเรือค้นหาของแดนอิเหนาเองก็ติดแหง็กทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอฟังคำแนะนำจากมาเลเซีย
สำหรับกองทัพเรือของอินเดียก็ได้ระงับการค้นหาในทะเลอันดามันมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว โดยระบุเหตุผลว่าเพราะไม่มีคำแนะนำจากแดนเสือเหลืองว่าจะให้ปฏิบัติการอย่างไร
ฮิชัมมุดดิน กล่าวยอมรับว่า บางส่วนของทรัพยากรที่ควรใช้เพื่อการค้นหา “ยังคงกำลังรอการเคลียร์ในทางการทูต เพื่อที่จะได้เริ่มการปฏิบัติการ”
“ทันทีที่เราได้รับการเคลียร์อย่างเป็นทางการแล้ว เราก็จะสามารถเพิ่มความเร็วในการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ไปตามแนวพื้นที่ที่จะต้องทำการค้นหา” เขาบอก
ทั้งนี้มีความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการปฏิบัติการที่ยังคงล่าช้า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า กล่องดำบันทึกข้อมูลของเครื่องบินจะสามารถส่งสัญญาณให้ค้นหาได้ง่าย เป็นระยะเวลาเพียง 30 วันเท่านั้น