รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจสอบสาเหตุการสูญหายอย่างปริศนาของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สพร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ให้ความเห็นว่าเครื่องบินอาจแยกชิ้นส่วนกระจัดกระจายกลางอากาศ จึงทำให้ค้นหาได้ยาก ขณะเดียวกันกับที่สื่อเวียดนามรายงานเรื่องวัตถุต้องสงสัยกลางทะเลที่อาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินลำนี้
แม้จะผ่านมาเกือบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่มีฝ่ายใดสามารถยืนยันชะตากรรมของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ที่สูญหายไปจากจอเรดาร์เมื่อกลางดึกวันเสาร์ที่ผ่านมา (8) ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมาเลเซียระบุว่า เที่ยวบิน MH370 ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่กรุงปักกิ่งอาจหันหัวกลับมายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“การที่เรายังหาชิ้นส่วนเครื่องบินไม่พบเลยจนถึงขณะนี้บ่งชี้ว่า ตัวเครื่องอาจจะแตกกระจายขณะบินอยู่ที่ความสูงราวๆ 35,000 ฟุต” แหล่งข่าวในทีมสืบสวนของทางการมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่ซึ่งขอสงวนนามโดยอ้างว่าตนไม่มีอำนาจเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ตั้งข้อสังเกตว่า หากเครื่องบินลำนี้ตกลงสู่มหาสมุทรจากระดับความสูง 35,000 ฟุตในสภาพสมบูรณ์ และลำตัวเครื่องแตกหักด้วยแรงกระแทกกับผืนน้ำเท่านั้น ทีมค้นหาก็น่าจะพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สามารถระบุได้ชัดเจน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ “ระเบิด” ขึ้น แหล่งข่าวชี้ว่ายังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเครื่องบินลำนี้ตกเป็นเหยื่อก่อการร้าย และข้อสันนิษฐานในเวลานี้คือเครื่องบินอาจแยกชิ้นส่วนด้วยสาเหตุเชิงกล (mechanical causes)
ด้าน โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่น 777-200ER ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และอ้างถึงถ้อยแถลงของบริษัทก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เรือของกองทัพและเอกชนหลายสิบลำถูกส่งออกไปยังน่านน้ำที่อยู่ในเส้นทางบินของเที่ยวบิน MH370 ทว่า ล่าสุดยังไม่พบร่องรอยที่ชัดเจนของเครื่องบิน แม้จะมีการพบเห็นคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลระหว่างเวียดนามและชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียก็ตาม
เมื่อค่ำวานนี้ (9) สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนามแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เครื่องบินของกองทัพเรือเวียดนามพบวัตถุต้องสงสัยลอยอยู่ในทะเลซึ่งอาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส แต่ขณะนั้นท้องฟ้ายังมืดมาก และจะมีการส่งเครื่องบินออกไปตรวจสอบที่จุดเดิมในช่วงเช้าวันนี้ (10)
อาซารุดดิน อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “จนถึงขณะนี้เรายังไม่พบร่องรอยของเครื่องบินที่หายไป... และเรายังไม่ตัดประเด็นเรื่องการก่อการร้าย”
ทางการมาเลเซียได้ขยายพื้นที่ค้นหาให้ครอบคลุมน่านน้ำรอบๆ มาเลเซียและนอกชายฝั่งของเวียดนาม ทั้งยังสอบสวนกรณีผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คนบนเครื่องใช้หนังสือเดินทางที่ขโมยมาจากบุคคลอื่น
มาเลเซียแอร์ไลน์ส 777-200ER ซึ่งใช้เครื่องยนต์โรลส์รอยซ์และผ่านการใช้งานมานาน 11 ปี เดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเวลา 00.40 น.ของวันเสาร์ (8) ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย โดยมีผู้โดยสาร 227 คนจาก 14 ชาติ และลูกเรืออีก 12 คน
เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินจับสัญญาณครั้งสุดท้ายได้ขณะที่เครื่องบินอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของเมืองโกตาบารูประมาณ 120 ไมล์ทะเล ขณะที่เว็บไซต์ Flightaware.com ชี้ว่าเครื่องบินลำนี้มุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และไต่ระดับความสูงไปถึง 35,000 ฟุตก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไป
ขณะเกิดเหตุไม่มีรายงานสภาพอากาศเลวร้าย