xs
xsm
sm
md
lg

“อดุลย์” สั่งขยายผลคดีปลอมพาสปอร์ตโผล่เที่ยวบิน MH370

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจเผยกรณีผู้โดยสารเครื่องบินมาเลย์ที่หายสาบสูญใช้พาสปอร์ตปลอมโยงฐานข้อมูลตำรวจสากล ทั้งสองคนเคยเดินทางเข้าไทย แจ้งความหายที่ภูเก็ต ขณะที่ “อดุลย์” กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าคดีปลอมพาสปอร์ต

จากกรณีเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ซึ่งเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อกลางดึกของวันเสาร์ (8 มี.ค.) เพื่อไปยังปลายทางกรุงปักกิ่ง เกิดสูญหายไร้ร่องรอยขณะบินอยู่เหนือน่านน้ำระหว่างเวียดนามและมาเลเซีย หลังเครื่องบินเทกออฟไปได้ราวๆ 1 ชั่วโมง

ต่อมาพบว่าการสูญหายของเครื่องบินลำนี้เริ่มถูกมองเป็นประเด็น “ก่อการร้าย” เมื่อพบว่าผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คนขึ้นเครื่องบินด้วยหนังสือเดินทางที่ขโมยมาจากบุคคลอื่น โดยเจ้าของหนังสือเดินทางที่แท้จริงซึ่งเป็นชาวอิตาลี และชาวออสเตรียยังคงปลอดภัยดี

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.กล่าวว่า กรณีสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่สูญหาย ปรากฎว่ามีผู้โดยสาร 2 ราย คือ นายรุยจิ มาราลดิ (Luigi Maraldi) สัญชาติอิตาลี เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 56 เที่ยวบิน TG945 ใช้หนังสือเดินทางหมายเลข YA3189197 ได้มีการแจ้งหายที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน มิ.ย. 56 ที่ผ่านมา และนายชีสตัน โคเซล (Cheiston Kozel) สัญชาติออสเตรีย เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 55 เที่ยวบิน TG925 หนังสือเดินทางหมายเลข T2979523 มีการแจ้งหายที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน มี.ค. 55 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการมาเลเซียระบุว่าใช้หนังสือเดินทางปลอม จึงมีการตรวจสอบของตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต และสตม. ปรากฏว่ามีการบันทึกข้อมูลการแจ้งหายของหนังสือเดินทางดังกล่าว และมีการเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลของตำรวจสากล ทางเลขาธิการตำรวจสากลจึงออกมายืนยันว่าข้อมูลการแจ้งหายของหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่ม ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลขององค์การตำรวจสากลทุกๆ ประเทศ สามารถตรวจสอบได้ว่าหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่มได้มีการแจ้งหายเอาไว้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.), กองการต่างประเทศ และสันติบาลให้ติดตามความคืบหน้า รวมทั้งให้กองการต่างประเทศประสานงานกับผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย แจ้งว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งเครื่องบินตำรวจ ตำรวจน้ำ ทีมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเมื่อร้องขออย่างเต็มที่ และให้ทุกหน่วยโดยเฉพาะ สตม. กองการต่างประเทศ และสันติบาล รวมทั้งกองบัญชาการในพื้นที่ทุกแห่ง ติดตามสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคดีปลอมแปลงหนังสือเดินทาง รวมทั้งตรวจสอบกรณีเคยมีการแจ้งความหรือมีการจับกุม เพื่อทำการขยายผลและป้องกันปราบปราม

ด้านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นหัวหน้า ให้วางระบบเรื่องการรับแจ้งหนังสือเดินทางหายของทุกสนานีตำรวจ โดยให้เชื่อมโยงผ่านระบบ CMIS ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อจะได้เชื่อมโยงกับระบบ PIBICS ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับหมายจับของตำรวจสากล
กำลังโหลดความคิดเห็น