เอเจนซี - ผู้เชี่ยวชาญฯ จีน เผยความเป็นไปได้ของเหตุเครื่องบินสูญหาย มั่นใจว่าเครื่องบินลำดังกล่าวต้องเผชิญกับอะไรบางอย่างที่ฉุกเฉินและกะทันหันมากๆ ขนาดที่ว่าไม่มีเวลาให้นักบินแม้กระทั่งจะส่งรหัส - แจ้งเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งระบบแจ้งพิกัดอัตโนมัติ ก็ไม่ทำงาน
ไชน่าเดลี่ รายงาน (9 มี.ค.) อ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคนกับกรณีเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 สูญหายไปจากการติดต่อ และบินไม่ถึงที่หมายปลายทางตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา และยังไม่พบว่าอยู่ที่ใดเวลานี้อันเป็นเวลานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว
รายงานข่าวกล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 48 ชั่วโมงของการร่วมมือระหว่างนานาชาติ ค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปจากการติดต่อฯ นั้น กองเรือผู้เชี่ยวชาญจาก 11 ชาติ รวมถึง จีน เวียดนาม สหรัฐฯ สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ที่ถูกส่งออกไปค้นหาตลอดเส้นทางบินของเที่ยวบิน MH370 ล้วนยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินลำดังกล่าวว่าหายไปไหน แม้จะมีการพบเห็นคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลระหว่างเวียดนามและชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียก็ตาม
ซื่อ เซี่ยนหมิน ประธานไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส กล่าวว่า การค้นหาเครื่องบินครั้งนี้ นับว่าใช้เวลานานกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งที่เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่
ปริศนาการสูญหายของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 นับเป็นข่าวใหญ่ของโลกเวลานี้ หลายชาติส่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อให้ความเห็นและประสบการณ์ในการคาดเดาว่า เครื่องบินลำดังกล่าวได้ประสบเหตุอะไรบ้าง
จ้าว ยี่เฟย ศาสตราจารย์จาก สถาบันการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ จากมหาวิทยาลัยการบินพลเรือนจีน กล่าวยืนยันมั่นใจว่า เครื่องบินลำดังกล่าวต้องเผชิญกับอะไรบางอย่างที่เร็วมากๆ ขนาดที่ว่าไม่มีเวลาให้นักบินแม้กระทั่งอุทาน หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน
จ้าว ยี่เฟย เสริมว่า โอกาสที่เครื่องยนต์ขัดข้องกะทันหันระหว่างเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายรุนแรงก็เป็นไปได้สูง แต่สัญญาณการติดต่อที่ขาดหายไปอย่างกะทันหันนี้ หากไม่ใช่เพราะการระเบิด-ก่อการร้าย ก็คงเป็นการปะทะกับพายุใหญ่ หรืออาจจะอะไรอื่นๆ ที่มีแรงกระแทกสูงมาก
กัปตัน จอห์น เอ็มค็อก นักบินจากยูเอสแอร์เวย์ ผู้มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฯ ของ เซฟตี้โอเปอเรตติ้ง ซิสเต็มส์ ก็กล่าวสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินสายการบินมาเลเซียก็ตาม ต้องเป็นการอุบัติขึ้นที่รวดเร็วมาก และเป็นเรื่องใหญ่รุนแรงขนาดที่หยุดแม้ระบบการสื่อสารพิกัดตำแหน่งฉุกเฉิน
หว่า เว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิศวกรรมจีน กล่าวว่า เรารู้แค่ว่าเครื่องบินตกจากระดับ 35,000 ฟุต ในฉับพลัน แต่อย่างอื่นเราไม่รู้เลยในเวลานี้ และว่าหากมีผู้รอดชีวิตตกลงไปในทะเลจีนใต้ ก็น่าจะรอดได้ทันรับความช่วยเหลือจากกองเรือที่เร่งออกค้นหาจากจุดที่ขาดการติดต่อไป
รอยเตอร์ส รายงาน (9 มี.ค.) ว่าทีมสืบสวนของทางการมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์แต่ไม่เปิดเผยนามฯ โดยอ้างว่าตนไม่มีอำนาจเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ตั้งข้อสังเกตว่า หากเครื่องบินลำนี้ตกลงสู่มหาสมุทรจากระดับความสูง 35,000 ฟุตในสภาพสมบูรณ์ และลำตัวเครื่องแตกหักด้วยแรงกระแทกกับผืนน้ำเท่านั้น ทีมค้นหาก็น่าจะพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สามารถระบุได้ชัดเจน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ 'ระเบิด' ขึ้น แหล่งข่าวชี้ว่ายังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเครื่องบินลำนี้ตกเป็นเหยื่อก่อการร้าย และข้อสันนิษฐานในเวลานี้คือเครื่องบินอาจแยกชิ้นส่วนด้วยสาเหตุเชิงกล (mechanical causes)
ด้าน โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่น 777-200ER ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และอ้างคำแถลงฯ ของบริษัทก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เหม่ย ต่งมู่ วิศวกรผู้ออกแบบอากาศยาน ของบรรษัทอุตสาหกรรมอากาศยานแห่งชาติจีน กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่ หากตกลงในมหาสมุทร จะไม่เห็นชิ้นส่วนใหญ่ๆ ของเครื่องบินลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ และเสริมว่ากรณีนี้ในความเห็นของเขา คิดว่าเครื่องบินอาจจะระเบิดกลางอากาศโดยกะทันหัน และแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที คาดว่าผู้โดยสารทั้งลำจะตกลงไปที่มหาสมุทร ทั้งนี้ก็เป็นเพียงสมมติฐาน และหากเป็นเช่นนี้ อย่างไรเสียจะต้องพบศพของผู้โดยสารในเร็ววันนี้
เหลียง ซื่อจย่า หัวหน้านักบินจาก Civil Aviation Administration of China ผู้ดูแลพื้นที่ภูมิภาคกลางและใต้ กล่าวว่า ปกติแล้ว หากเครื่องบินมีปัญหา กัปตันจะต้องประกาศฉุกเฉิน และส่งสัญญาณเมย์เดย์ Mayday ทางวิทยุสื่อสาร หรือส่งรหัสมายังภาคพื้นดิน อาทิ รหัส 7700 เมื่อเครื่องยนต์ระเบิด หรือ 7500 เมื่อโดนสลัดอากาศจี้เครื่องบิน
"ต่อให้หากกัปตันไม่สามารถส่งสัญญาณได้ ระบบส่งสัญญาณระบุตำแหน่งฉุกเฉิน (Emergency Locator Transmitter) ก็จะต้องทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเครื่องบินประสบอุบัติเหตุ เพื่อส่งพิกัดให้ผู้ช่วยเหลือออกค้นหา
อย่างไรก็ตาม การสื่อสารทั้งหลายนี้กลับไม่ปรากฏทั้งสิ้นในเวลาที่เครื่องบินสูญหายไป นั่นเป็นเรื่องที่อธิบายยาก เหลียง ซื่อจย่า กล่าวว่า เหตุผลที่เครื่องบินหายไปนี้จะรู้กันก็ต่อเมื่อค้นหาเครื่องบินเจอก่อน และความร่วมมือกันลาดตระเวณค้นหาของนานาชาติในเวลานี้คือหนทางเดียวที่ทำได้