เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในวันเสาร์ (8) ระบุว่า มีชาวอเมริกัน 3 คนอยู่บนเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายไปอย่างเป็นปริศนานอกชายฝั่งเวียดนาม ระหว่างเส้นทางบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ในมาเลเซีย มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
รายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันมีพลเมืองอเมริกัน 3 ราย อยู่บนเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่คาดว่าจะประสบอุบัติเหตุนอกชายฝั่งเวียดนาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงปักกิ่ง ได้ติดต่อกับครอบครัวของชาวอเมริกันทั้ง 3 รายแล้ว และกำลังทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ายังมีชาวอเมริกันอีกหรือไม่บนเที่ยวบินมรณะนี้
คำแถลงยังระบุว่าทางการสหรัฐฯขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 แต่ในขณะนี้ทางการสหรัฐฯยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้
ด้านเจ้าหน้าที่ของเวียดนามเผยว่า พบคราบน้ำมันขนาดใหญ่ 2 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้อาจประสบอุบัติเหตุตกในทะเลนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเวียดนาม
ทั้งนี้ มีการยืนยันว่าเที่ยวบินมรณะนี้มีผู้โดยสารรวม 227 ชีวิต และมีลูกเรือปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องอีก 12 คน และมีการยืนยันจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า โศกนาฏกรรมกลางเวหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการก่อการร้าย
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศอิตาลี ออกมายืนยันว่า ลุยจิ มารัลดี พลเมืองของตนวัย 37 ปี ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ ถูกขโมยหนังสือเดินทางขณะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเจ้าตัวไม่ได้อยู่บนเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศออสเตรีย ก็ออกมาแถลงเช่นกันว่าพลเมืองของตนรายหนึ่ง ที่มีชื่อเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ลำดังกล่าว ถูกขโมยหนังสือเดินทางระหว่างเดินทางมายังประเทศไทยตั้งแต่ 2 ปีก่อน และเจ้าตัวยังคงปลอดภัยดีอยู่ในออสเตรีย