เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีว่าคิดจะ “เปลี่ยนเส้นพรมแดน” ของยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการแย่งชิงคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครน และอาจใช้ข้ออ้างเดียวกันรุกรานดินแดนอื่นๆ ที่มีพลเมืองเชื้อสายรัสเซียอาศัยอยู่
ปูติน ได้ลงนามในสนธิสัญญาผนวกดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียแล้วเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ขณะที่รัฐบาลยูเครนเตือนว่าความขัดแย้งกับเครมลินยกระดับสู่ขั้น “สงคราม” หลังเกิดการยิงปะทะจนทหารเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย
พิธีลงนามสนธิสัญญาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบสะท้อนความพยายามของ ปูติน ที่จะขยายเส้นเขตแดนรัสเซียในยุคหลังสหภาพโซเวียตให้กว้างไกลออกไป และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและโลกตะวันตกย่ำแย่ถึงขีดสุด นับตั้งแต่สิ้นยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา
“เราต้องสนับสนุนรัฐบาลยูเครนมากกว่านี้ และต้องส่งเสริมให้ยุโรปสามารถพึ่งพาตนเองในด้านพลังงาน” คลินตันระบุ
อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่คาดหมายว่าจะลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ยังเรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากเวทีเสวนาซึ่งจัดโดยคณะกรรมการการค้าแห่งมอนทรีออล ด้วยคำพูดที่ว่า “ปูตินต้องการเปลี่ยนเส้นเขตแดนของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2”
“ดิฉันหวังว่าคงจะไม่เกิดสงครามเย็นขึ้นอีก แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการเช่นนั้น แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของปูติน”
คลินตัน ซึ่งเคยพ่ายแพ้ต่อ บารัค โอบามา ในศึกเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2008 กล่าวเสริมว่า “ตรรกะที่ปูตินนำมาอ้างเพื่อยึดครองไครเมีย เช่นว่า พลเมืองมีเชื้อสายรัสเซีย พูดภาษารัสเซีย และเคยเป็นดินแดนของรัสเซียมาก่อน ไม่เพียงอาจถูกนำไปอ้างเพื่อแทรงแซงพื้นที่ส่วนอื่นๆของยูเครนเท่านั้น แต่อาจรวมถึงดินแดนบางส่วนของเอสโตเนีย, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย และทรานส์นิสเตรีย ด้วยก็เป็นได้”
“ยังมีดินแดนอีกหลายแห่งที่พลเมืองส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย และใช้ภาษารัสเซียในการสื่อสาร”
สำหรับคำถามที่ว่าเธอคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกหรือไม่ คลินตัน ตอบเพียงว่า “ดิฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ก็ยังอยากที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและอนาคตของสหรัฐฯ ต่อไป ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่ที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกหลานชาวอเมริกัน”