เอเอฟพี - น้ำมันตลาดนิวยอร์กวานนี้ (18) ขึ้นแรง หลังงานขยายท่อลำเลียงเชื้อเพลิงสำคัญใกล้แล้วเสร็จ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกและราคาทองคำขยับลง นักลงทุนคลายกังวลวิกฤตยูเครน แม้ผู้นำรัสเซียลงนามในสนธิสัญญาซึ่งทำให้สาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของมอสโก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 106.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบสัญญาสหรัฐฯ ปิดบวก จากข่าวประสิทธิภาพของท่อลำเลียงเชื้อเพลิงซีเวย์จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เป็น 850,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคม หรือไม่ก็มิถุนายน บรรเทาปัญหาปริมาณน้ำมันดิบล้นคลังที่คุชชิ่ง โอกลาโฮมา และสามารถลำเลียงเชื้อเพลิงไปยังโรงกลั่นต่างๆ ในแถบชายฝั่งอ่าวเทกซัสได้มากขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (18) ปิดบวก แม้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลงนามในสนธิสัญญา ซึ่งทำให้สาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของมอสโก ตามหลังผลประชามติหนุนซุกปีกหมีขาว จนความตึงเครียดกับชาติตะวันตกเข้าสู่ขั้นวิกฤต
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 88.97 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,336.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.42 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,872.25 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 53.36 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,333.31 จุด
สหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (18) ประกาศจะยกระดับคว่ำบาตรรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวควบคุมไครเมีย ตามหลังประธานาธิบดี ปูติน ลงนามในสนธิสัญญาซึ่งทำให้สาธารณรัฐปกครองตนเองเป็นส่วนหนึ่งของมอสโกแล้ว เช่นเดียวกับนานาชาติที่ดาหน้าออกมาประณามการการกระทำของเครมลินด้วยถ้อยคำที่ดุเดือด
อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนพอจะเบาใจไปได้บ้าง ก็คือคำพูดของปูติน ที่ให้สัญญาว่าไม่ได้ต้องการผนวกดินแดนส่วนอื่นๆ ของยูเครนอีก
เหล่านักวิเคราะห์มองว่าข่าวคราวในยูเครน ไม่ใช่ประเด็นใหม่ที่สร้างความประหลาดใจ ขณะที่นักลงทุนได้หันไปจับตาบทสรุปของที่ประชุม 2 วันคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธ (19)
ด้วยสถานการณ์ในยูเครนไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย ส่งผลให้นักลงทุนขายสินทรัยพ์เสี่ยงต่ำ เป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้ (18) ร่วงลงกว่าร้อยละ 1 แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,359.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์