xs
xsm
sm
md
lg

วอลล์สตรีทเจอร์นัลชี้ “โบอิ้งมาเลเซีย” ยังบินต่อไปอีก 4 ชม.หลังสัญญาณเรดาร์ขาดหายไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล อ้างข้อมูลจากพนักงานสอบสวนสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส อาจทำการบินต่อไปอีกนานถึง “4 ชั่วโมง” หลังจากที่เรดาร์ของฝ่ายการบินพลเรือนตรวจจับสัญญาณได้เป็นครั้งสุดท้าย

เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศพบสัญญาณจากโบอิ้ง 777-200ER เป็นครั้งสุดท้ายก่อนเวลา 1.30 น.ของวันเสาร์ (8) หรือไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังจากที่เครื่องเทกออฟออกจากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือข้ามอ่าวไทยเพื่อไปยังกรุงปักกิ่ง

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการบินและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงภายในของสหรัฐฯ เชื่อว่า เครื่องบินลำนี้ได้ลอยอยู่กลางอากาศไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง โดยดูจากข้อมูลที่เครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ของโบอิ้ง 777 ดาวน์โหลดและส่งมายังภาคพื้นดินโดยอัตโนมัติ

วอลล์สตรีท ระบุว่า แหล่งข่าว 2 คนซึ่งเปิดเผยข้อมูลนี้เป็นผู้ที่ “ทราบรายละเอียดเป็นอย่างดี”

หากข้อมูลนี้เป็นจริงก็หมายความว่า โบอิ้งซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต น่าจะเดินทางต่อไปอีกเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ หลังขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินไปแล้ว

นานาชาติได้ส่งทั้งบุคลากร เรือ และเครื่องบินเข้ามาช่วยค้นหาร่องรอยของเครื่องบินมาเลเซียทั้งในน่านน้ำทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ซึ่งเวลานี้พื้นที่ค้นหากว้างขวางเกือบ 93,000 ตารางกิโลเมตร หรือพอๆ กับขนาดของประเทศฮังการี

พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างตรวจหาหลักฐานว่าเกิดการ “จี้เครื่องบิน” ขึ้นหรือไม่ ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ก็ยืนยันว่า ยังไม่ตัดประเด็นก่อการร้ายออกไป

“เจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายของสหรัฐฯ ยังคงสืบหาความเป็นไปได้ว่า กัปตันหรือบุคคลอื่นบนเครื่องอาจจะบังคับให้เครื่องบินมุ่งไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย โดยจงใจปิดอุปกรณ์สื่อสารกับภาคพื้นดินเพื่อไม่ให้เรดาร์ตรวจจับได้” วอลล์สตรีทรายงาน

สื่อชั้นนำของสหรัฐฯ แจกแจงต่อว่า การสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเครื่องบินโดยสารลำนี้ ตลอดจนประเด็นที่ว่าเครื่องรับส่งสัญญาณเรดาร์ไม่ถูกเปิดใช้งาน “ทำให้พนักงานสอบสวนสันนิษฐานว่า เครื่องบินอาจถูกใครจี้บังคับด้วยเหตุผลบางประการที่สหรัฐฯเองก็ยังไม่ทราบ”

วอลล์สตรีท ยังอ้างแหล่งข่าวอีกคนหนึ่งซึ่งชี้ว่า พนักงานสอบสวนกำลังประเมินทฤษฎีที่ว่า เครื่องบินอาจถูกบังคับเปลี่ยนเส้นทาง “เพื่อนำไปใช้กระทำการบางอย่างในภายหลัง”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานในนิตยสาร New Scientist ด้วยว่า โรลส์รอยซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ของโบอิ้ง 777 ได้รับ “ข้อมูลทางเทคนิคอย่างน้อย 2 ชุดจากเที่ยวบิน MH370 ที่ส่งมายังศูนย์สังเกตการณ์ของโรลส์รอยซ์ในเมืองดาร์บี ประเทศอังกฤษ โดยศูนย์แห่งนี้จะหน้าที่ติดตามการทำงานของเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ที่อยู่บนเครื่องบินพลเรือนทั่วโลก

เว็บไซต์ New Scientist เผยวานนี้ (12) ว่า ข้อมูลชุดแรกถูกส่งขณะที่เครื่องบินกำลังเทกออฟ ส่วนชุดที่ 2 ส่งมาระหว่างที่เครื่องกำลังไต่ระดับความสูง และมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งของจีน

ข้อมูลในส่วนของเครื่องยนต์นี้ถูก “คัดกรอง” มาจากระบบติดตามข้อมูล ACARS (Aircraft Communications Addressing and Reporting System) บนตัวเครื่อง ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งและความเร็วของเครื่องบิน

มาเลเซียแอร์ไลน์ส แถลงว่า เครื่องบินทุกลำของบริษัทติดตั้งระบบ ACARS แต่ทว่าอุปกรณ์บนเครื่อง MH370 “ไม่ได้ส่งข้อมูลใดๆ กลับมา” และไม่มีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากห้องนักบินด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น