ซินหวา - กัมพูชาประกาศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดต่อการตรวจสอบลักษณะรูปพรรณของผู้โดยสาร หลังเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับเหตุการณ์ที่พบว่ามีผู้โดยสาร 2 คน ขึ้นเครื่องโดยใช้หนังสือเดินทางที่ขโมยมา เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกรมการบินพลเรือนกัมพูชา ระบุ
“ในความเป็นจริงแล้ว การรักษาความปลอดภัยของเราในทุกสนามบินก็ดำเนินการอย่างเข้มงวด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของเราตรวจสอบหนังสือเดินทางอย่างระมัดระวัง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้โดยสารขึ้นเครื่องด้วยหนังสือเดินทางที่ขโมยมา” เจ้าหน้าที่กล่าวกับสำนักข่าวซินหวา
เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 พร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือรวม 239 คน หายไประหว่างเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังกรุงปักกิ่ง ในเช้าวันเสาร์ (8) โดยสายการบินระบุว่า เครื่องบินขาดการติดต่อ และสัญญาณบนจอเรดาร์หายไป ขณะบินอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเวียดนาม เมื่อเวลา 1.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ตามการระบุของสายการบิน มีชาวจีนโดยสารอยู่บนเครื่องลำดังกล่าว 154 คน และจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสาร 2 คนบนเครื่องใช้หนังสือเดินทางที่ขโมยมา
ความพยายามค้นหา และกู้ภัยจากความร่วมมือของหลายประเทศดำเนินขึ้นยังบริเวณจุดที่เครื่องบินหายไป แต่จนขึ้นขณะนี้ยังไม่มีร่องรอยปรากฏให้เห็น
อาซารุดดิน อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซีย ระบุว่า เครื่องบิน 34 ลำ และเรือ 40 ลำ จากหลายประเทศ ทั้ง จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย สหรัฐฯ ไทย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการค้นหา และกู้ภัยยังจุดที่สงสัยว่าเครื่องบินหายไป
เจ้าหน้าที่กัมพูชาระบุว่า กัมพูชาไม่ได้ส่งเรือ หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือในปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ เนื่องจากตำแหน่งที่เครื่องบินลำดังกล่าวสูญหายอยู่ไกลจากกัมพูชา
“ตำแหน่งดังกล่าวอยู่ไกลมากจากเขตแดนของกัมพูชา และเรือของเรามีขนาดเล็ก ศักยภาพมีจำกัด เราจึงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือในความพยายามค้นหา และกู้ภัยครั้งนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่สูญหายนี้” เจ้าหน้าที่กัมพูชา กล่าว.