เอเอฟพี - ตำรวจมาเลเซียระบุตัวผู้โดยสาร 1 ใน 2 คนที่ถือหนังสือเดินทางปลอมขึ้นเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส MH370 ที่สูญหาย โดยพบว่าเป็นชาวอิหร่านวัย 19 ปีที่ต้องการอพยพไปเยอรมนี และไม่น่าจะพัวพันการก่อการร้าย
คอลิด อบูบาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย แถลงวันนี้ (11 มี.ค.) ว่า “เราเชื่อว่าเขาไม่น่าจะเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย เขาเพียงแต่ต้องการอพยพไปอยู่เยอรมนีเท่านั้น”
หนุ่มอิหร่านรายนี้ถือหนังสือเดินทางออสเตรียซึ่งเป็นของคริสเตียน โคเซล ที่เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2555 ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 1 คนซึ่งถือหนังสือเดินทางของ ลุยจิ มารัลดี ชาวอิตาลีซึ่งมาทำพาสปอร์ตหายในเมืองไทยอีกเช่นกัน ตำรวจมาเลเซียยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยขณะเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เพื่อไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อกลางดึกวันเสาร์ที่ผ่านมา (8)
นานาชาติได้ส่งเรือและเครื่องบินเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินซึ่งสันนิษฐานว่าอาจตกลงในทะเลจีนใต้ ทว่า จนบัดนี้ยังคงไม่พบร่องรอย และไม่ทราบชะตากรรมผู้โดยสารกับลูกเรือทั้ง 239 ชีวิต
การที่ผู้โดยสารบนเครื่อง 2 คนใช้หนังสือเดินทางยุโรปซึ่งถูกขโมยในเมืองไทยนั้น ยังกลายเป็นประเด็นเสื่อมเสียให้ต่างชาติจับตามองไทยว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมที่มีความเสี่ยงสำหรับนักท่องเที่ยว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ระบุว่า ปูเรีย นูร์ โมฮัมหมัด เมห์รดาด วัย 19 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองอิหร่าน ถือหนังสือเดินทางออสเตรียที่ถูกขโมยจากนักท่องเที่ยวในประเทศไทย และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดตำรวจจึงทราบว่าเขาต้องการอพยพไปเยอรมนี คอลิด ก็ตอบแต่เพียงว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังมารดาของเขาซึ่งไปรออยู่ที่นครแฟรงก์เฟิร์ตแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลที่พบทำให้ตำรวจเชื่อหรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เชื่อมโยงการก่อการร้าย คอลิด ก็ยืนยันว่า ตำรวจมาเลเซียยังไม่มองข้ามความเป็นไปได้ที่ เมห์รดาด อาจมีส่วนพัวพันกับการสูญหายของเครื่องบิน
“ขณะนี้ผมคงยังพูดไม่ได้ว่ามันไม่เกี่ยวกัน ทุกกรณีล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น”