xs
xsm
sm
md
lg

“นาโต” ส่งเครื่องบินสอดแนมจับตา “ยูเครน” - “ไครเมีย” จัดตั้งกองทัพปกป้องตนเอง - “ต่างประเทศสหรัฐฯ” ไม่พบ “ปูติน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ส่งเครื่องบินรบสอดแนมไปยังโปแลนด์และโรมาเนียที่มีพรมแดนติดยูเครนเพื่อจับตาวิกฤตยูเครน และส่งสัญญาณให้รัสเซียรับรู้ และล่าสุดไครเมียได้จัดหน่วยกองกำลังอาสาปกป้องตนเองเข้าสาบานตัวเพื่อเป็นกองทัพป้องกันไครเมียจากการใช้กำลังทางทหารของรัฐบาลยูเครนรักษาการ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น แคร์รีย์ ได้ปฎิเสธคำเชิญรัสเซียในการเดินทางมากรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แต่ได้ส่งชุดคำถามไปให้มอสโกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแทน

เหตุสืบเนื่องมาจากการที่รัสเซียได้ควบคุมไครเมียก่อนที่จะมีการจัดลงประชามติตัดสินอนาคตในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ที่จะถึงนี้ ทั้งสหรัฐฯ และชาติตะวันตกต่างประกาศไม่ยอมรับผลการลงประชามติที่จะมีขึ้น โดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น แคร์รีย์ ได้ปฎิเสธคำเชิญรัสเซียในการเดินทางมากรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน จนกว่ารัสเซียจะยอมรับข้อเสนอสหรัฐฯ ในการจัดการวิกฤตยูเครน แต่ได้จัดส่งคำถามไปให้กับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลารอฟ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแทน โดยเจาะจงที่ต้องการทราบว่ารัสเซียพร้อมที่จะพบกับตัวแทนรัฐบาลยูเครนรักษาการหรือไม่

ซึ่งลารอฟที่ได้สรุปสถานการณ์กับปูตินผ่านทางโทรทัศน์รัสเซียในวันจันทร์ (10) กล่าวประณามข้อเสนอของสหรัฐฯในการยุติวิกฤตยูเครนว่า ไม่เหมาะสมกับรัสเซียเพราะ กระบวนการได้เริ่มต้นจากรัฐบาลใหม่ยูเครนที่ทางมอสโกถือว่าไม่มีอำนาจชอบธรรมทางกฎหมาย และทางมอสโกได้กำลังร่างแผนที่ตอบโต้ข้อเสนอของสหรัฐฯ อยู่

อย่างไรก็ตาม ทางวอชิงตันได้เปิดเผยว่ายังไม่มีคำตอบจากมอสโกอย่างเป็นทางการต่อชุดคำถามของแคร์รีย์

และในวันเดียวกัน (10) กลุ่มติดอาวุธที่กล่าวได้ว่ามีทั้งทหารรัสเซียและนักรบไครเมียได้เข้ายึดโรงพยาบาลในไครเมีย โดยกองกำลังติดอาวุธได้บุกเข้าไปในตัวโรงพยาลาลที่ตั้งอยู่เมืองซิมเฟโรโพล ที่เป็นเมืองเอกของไครเมียซึ่งเป็นรัฐกึ่งปกครองตนเอง แต่ทว่ารัสเซียได้ปฎิเสธอย่างเป็นทางการว่ากองกำลังรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของการปิดล้อมในไครเมีย โดยกองกำลังที่ไม่ติดเครื่องหมายใดๆ นี้เป็นหน่วยปกป้องตนเอง ซึ่งสื่ออาร์ทีของรัสเซียรายงานว่า มีพลเมืองยูเครนราว 180 คนได้เข้าสาบานตนในเมืองซิมเฟโรโพลในวันเสาร์ (8) และวันจันทร์ (10)

“คนที่จะเข้าร่วมนี้ต้องได้รับการตรวจสอบภูมิหลังมาเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาต้องถือปืน” อเล็กซานดร์ บอชคาเรฟ หัวหน้าหน่วยกองกำลังปกป้องตนเองเผยต่อสำนักข่าว RIA-Novosti

อ้างจากบอชคาเรฟ จะมีการเข้าสาบานตนอย่างต่อเนื่องในไครเมียซึ่งในขณะนี้กำลังมีการจัดตั้งให้มีกองทัพของไครเมียขึ้น และหากผลประชามติสนับสนุนให้เข้าร่วมรัสเซียแล้ว บางคนอาจจะทำหน้าที่ต่อไปในหน่วยนี้ในขณะที่อีกหลายคนอาจจะต้องการลาออก และจะมีบางคนอาจจะไม่เหมาะสมที่จะทำหน้าที่ต่อด้วยเหตุผลบางประการ

และบอชคาเรฟยังเผยต่อว่า ในขณะนี้มีพลเมืองยูเครนจำนวน 1,500 คนทำหน้าที่ในหน่วยงานปกป้องตนเอง ซึ่งเขาให้ความเห็นว่า ถึงแม้จะเป็นจำนวนไม่มากนัก แต่ในขณะนี้ไม่ต้องการรับเพิ่มเติมมากไปกว่านี้ และกล่าวว่าทุกวันมีชาวยูเครนเข้ามาขอสมัครเข้าทำงานในหน่วยงานนี้แต่ทางบอชคาเรฟได้แต่เก็บข้อมูลไว้ก่อนเท่านั้น

ด้านนายกรัฐมนตรีไครเมีย เซอร์เกย์ อัคสโยนอฟ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิตาร์-ทาส ว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยปกป้องตนเองต้องเข้าสาบานตนเพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการลงคะแนนประชามติในวันที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้

และนอกจากกองกำลังปกป้องตนเองไครเมียแล้ว ยังมีกองกำลังยูเครนในไครเมียที่ได้เลือกข้างโดยการเข้าสาบานตนต่อรัฐบาลของอัคสโยนอฟ ซึ่ง พล.ร.ต.เดนิส เบเรดซฟสกี ผู้บัญชาการกองทัพเรือยูเครนเป็นรายแรกที่เข้าสาบานตนต่อรัฐสภาไครเมีย และตามมาด้วยผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นไครเมีย กระทรวงจัดการภัยฉุกเฉินสาธารณะ หน่วยงานรักษาเขตแดน และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูง

ในขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดียูเครนรักษาการของประธานาธิบดี โอเล็กซานเดอร์ ตูชินอฟ ได้พยายามซื้อใจกองกำลังทหารยูเครนในไครเมียด้วยการเสนอให้โบนัส 13.6 ล้านดอลลาร์กับทางเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุด แต่คำประกาศนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับกระทรวงการคลังยูเครนที่ตระหนักดีว่า ประเทศกำลังตกอยู่ในสภาพขาดแคลนเงินอย่างหนัก อ้างจากแหล่งข่าว โดยคาดกันว่าสวัสดิการว่างงาน สวัสดิการเด็ก รวมไปถึงทุนการศึกษาจะต้องได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกหากรัฐบาลรักษาการต้องจ่ายโบนัสให้ทหารเหล่านั้นจริง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลยูเครนรักษาการ สหรัฐฯ และชาติตะวันตกต่างกล่าวหารัสเซียว่า บุกยูเครน และละเมิดกฏหมายต่างประเทศ โดยทางนาโตย้ำว่าเครื่องบิบสอดแนมจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนรัสเซียที่ยังอยู่ในไครเมีย การประกาศของนาโต้ในเรื่องเครื่องบินสอดแนมนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่โรงพยาบาลไครเมียที่มีทหารยูเครนและทหารผ่านศึกของยูเครนกำลังทำการรักษาตัวอยู่ถูกยึดในวันจันทร์ (10) ซึ่งในขณะนั้นมีรายงานว่า ยังมีผู้ป่วยที่บาดเจ็บสาหัสยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ อดีตผู้อำนวยการของโรงพยาบาลไครเมียได้เปิดเผยว่า เขาถูกบังคับให้ขึ้นรถบัสและถูกขังไว้ในนั้นเป็นเวลาร่วม 90 นาที และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ถูกกวาดต้อนไปยังบริเวณต้อนรับเพื่อพบกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ที่เป็นหน่วยติดอาวุธนิยมรัสเซีย อ้างจากสำนักข่าวอินเตอร์แฟกส์

นอกจากนี้ยังพบว่าได้มีกองกำลังรัสเซียและผู้สนับสนุนเข้ายึดที่ตั้งทางทหารยูเครนในไครเมียอย่างน้อย 4 แห่ง ที่รวมถึงหน่วยสรรพาวุธเก็บจรวดมิสไซล์ในวันจันทร์ (10) โดยพบว่า กองกำลังสนับสนุนรัสเซียยังได้พยายามที่จะเข้ายึดฐานคมนาคมทางทหารในบาฮ์คชีซาไร เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างซิมเฟเรโพล และเซวาสโตโพล ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่มติดอาวุธได้ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าแต่ทหารยูเครนไม่ตอบโต้

โดย วลาดิสลาฟ เซเลซ์นยอฟ (Vladislav Seleznyov) โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนในไครเมียได้เปิดเผยว่า มีกลุ่มติดอาวุธ 200 นายในเครื่องแบบไม่ติดเครื่องหมายเดินทางมาด้วยรถบรรทุก 14 คันเมื่อวงานนี้ (10) เวลา 13.10 น. ที่หน่วยสรรพาวุธที่เก็บจรวดมิสไซล์ในเชอร์โนมอร์สโกเย (Chernomorskoye) ที่อยู่ทางตะวันตกของไครเมีย และสั่งให้ทหารยูเครนประจำหน่วยวางอาวุธ แต่ทว่าทหารเหล่านั้นปฎิเสธ แต่ได้เก็บอาวุธไว้ในคลังแสงและเดินทางออกจากหน่วยที่ตั้งไป เซเลซ์นยอฟกล่าว

และหนังสือพิพม์วอชิงตันโพสต์ได้รายงานว่า ไครเมียได้เริ่มเข้าสู่โหมดการลงประชามติอย่างคึกคัก มีการทำโพลสนับสนุนการเข้าร่วมรัสเซีย ซึ่งผลโพลแสดงให้เห็นว่าชาวไครเมียจำนวนมากกว่าถึง 3 เท่าที่สนับสนุนให้รัฐของพวกเขาประกาศเข้าร่วมกับรัสเซีย นอกจากนี้เว็บไซต์ของรัฐสภาไครเมียยังเดินหน้าสนับสนุนการทำประชามติครั้งนี้ และยังมีบทความอีกมากมายที่เขียนเชียร์ให้ผลประชามติสนับสนุนฝ่ายรัสเซีย รวมไปถึงบรรยายให้เห็นภาพว่ามีนักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนมากที่กล้าเข้ามาท่องเที่ยวในไครเมีย

และนอกจากนี้มีรายงานว่า นักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการเข้าร่วมรัสเซียได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

อิกอร์ เคอร์ยูสเชนโก ผู้อำนวยการสาขาไครเมียของพรรคUkrainian Republican Party ที่สนับสนุนกลุ่มอำนาจใหม่ในกรุงเคียฟได้เข้าใจว่าถูกลักพาตัวไป 1 วันหลังจากที่เขาได้เข้าร่วมการประท้วง โดยเพื่อนร่วมงานของ เคอร์ยูสเชนโกได้เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อครั้งสุดท้ายจากเคอร์ยูสเชนโกในบ่ายวันจันทร์ (10) เมื่อเคอร์ยูสเชนโกได้โทรศัพท์เข้ามายังสำนักงานและได้พูดลากับเลขาของเขาว่า “ลาก่อน พวกเขากำลังมาจับตัวผมไป” และหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์มือถือครั้งนั้นแล้ว เคอร์ยูสเชนโกยังไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย

และเซอร์เกย์ ฮาดซีนอฟ หนึ่งในนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักขับ AutoMaidan ที่สนับสนุนม็อบยูเครนได้เปิดเผยว่า สมาชิกหญิงของกลุ่มและผู้ติดตามของเธอถูกจับที่ด่านจุดตรวจเข้าไครเมียในวันอาทิตย์ (9) ในขณะที่ทางกลุ่มพยายามจะขับรถเข้ามาในเมืองที่นิยมรัสเซียแห่งนี้ โดยเขาได้กล่าวว่า “พยานคนหนึ่งได้เห็นผู้หญิงนั่งคุกเข่าถูกจับมือมัดไพล่หลัง”

ลารอฟที่ได้สรุปสถานการณ์กับปูตินผ่านทางโทรทัศน์รัสเซียในวันจันทร์(10)
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น แคร์รีย์ และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลารอฟ
กำลังโหลดความคิดเห็น