เอเอฟพี / เอเจนซีส์ - ในวันนี้ (3) นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีตรี เมดเวเดฟ กล่าวยืนยันถึงความชอบธรรมในการยังคงเป็นผู้นำของ “วิกเตอร์ ยานูโควิช” ที่ถูกรัฐสภายูเครนลงมติปลดจากตำแหน่งในปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาถึงแม้อำนาจการสั่งการของเขา “จะเกือบเป็นศูนย์” แล้วก็ตาม ท่ามกลางภาพวิกฤตในไครเมียที่มีรถคอนวอยทหารของรัสเซีย 13 คันขนทหารรัสเซียหลายร้อยนายถือปืนกระจายประจำทั่วทุกจุดทั่วไครเมีย พร้อมทั้งทำการปลดอาวุธทหารยูเครนและห้ามเข้าหรืออกจากไครเมีย ในขณะที่หากมีสงครามเกิดขึ้นจริง กองทัพยูเครนจะเป็นเสมือนแค่คนแคระเมื่อเปรียบเที่ยบกับกองทัพรัสเซีย ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศรัสเซีย กริกอรี คาราซินให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่วงดึกเมื่อวานนี้ (2) ยืนยันว่า รัสเซียไม่ต้องการประกาศทำสงครามกับยูเครนที่เป็นเสมือนบ้านพี่เมืองน้องกับรัสเซีย และล่าสุดวันนี้ (3) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้มีการปรึกษาหารือในกรอบกว้างกับจีนถึงสถานการณ์ล่าสุดในยูเครนหลังถูกโดดเดี่ยวหนักในประชาคมโลก
ในวันจันทร์ (3) นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีตรี เมดเวเดฟ ยืนกรานว่า รัสเซียไม่ยอมรับรัฐบาลชุดใหม่ของยูเครนที่เข้ามารักษาการที่มีประธานาธิบดี โอเล็กซานเดอร์ ตูชินอฟ เป็นผู้นำประเทศอยู่ในขณะนี้เหตุเพราะอำนาจใหม่ในกรุงเคียฟละเมิดรัฐธรรมนูญยูเครน
ในการแถลงผ่านเฟซบุ๊กของเขา เมดเวเดฟไม่ได้อ้างโดยตรงที่รัฐสภารัสเซียได้ลงมติเมื่อสุดสัปดาห์ในการอนุญาตให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินส่งกำลังทหารเข้าไปยังไครเมีย “เป็นความจริงที่ว่าอำนาจของวิกเตอร์ ยานูโควิชเกือบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว แต่นั่นไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าเขายังเป็นผู้นำที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญยูเครน” เมดเวเดฟกล่าว
ซึ่งรัสเซียได้ให้ที่หลบภัยกับยานูโควิขที่เพิ่งปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในที่สาธารณะในวันศุกร์(28 กุมภาพันธ์) ล่าสุด และเมดเดเวฟยังอ้างว่ารัสเซียพร้อมที่จะพัฒนาสานสัมพันธ์กับยูเครน แต่ต้องไม่ใช่กับรัฐบาลชุดรักษาการที่มาแทนที่ยานูโควิช
“สำหรับรัสเซีย ยูเครนไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่ประท้วงจนเกิดการล้มตายเป็นจำนวนมาก ละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศและก้าวขึ้นสู่อำนาจปกครองยูเครน แต่ยูเครนทั้งประเทศเป็นชุมชนของคนหลากหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่มีทั้งชาวยูเครนเชื้อสายรัสเซีย ยิว ทาทาร์ และยูเครน” เมเดเวฟกล่าวเสริม
ซึ่งความเห็นของเมเดเวฟสะท้อนถึงทัศนคติของชาวรัสเซียที่มีต่อยูเครนที่รัฐบาลยูเครนรักษาการชุดใหม่นี้ประกอบไปด้วยกลุ่มคนสายเหยี่ยวที่มุ่งสนับสนุนแต่กับคนกลุ่มน้อยของพลเมืองยูเครนทั้งหมด
นอกจากนี้ แถลงการณ์เมเดเวฟยังย้ำว่า ถึงแม้รัสเซียไม่รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากต่อการกระทำของยานูโควิชเท่าใด แต่รัสเซียไม่สามารถยอมรับต่ออำนาจของรัฐบาลยูเครนรักษาการชุดใหม่มากกว่า และเมดเดเวฟยังเสริมว่า หากยานูโควิชมีความผิดต่อโทษสังหารหมู่ ควรจะใช้วิธีเริ่มกระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งในรัฐสภาที่กรุงเคียฟมากกว่า
ทางด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กริกอรี คาราซิน ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่วงดึกเมื่อคืนนี้ (2) ว่า รัสเซียไม่ต้องการที่จะทำสงครามกับยูเครน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน แต่เหตุที่รัสเซียต้องส่งทหารเข้าไครเมียเพื่อแสดงถึงความจริงจังของรัสเซียต่อปัญหาวิกฤตยูเครน และจะทำให้อำนาจใหม่ในกรุงเคียฟต้องหยุดคิดว่า การกระทำของพวกเขายิ่งจะส่งเสริมให้เกิดการแยกดินแดนเกิดขึ้น แต่ทว่าโลกตะวันตกกลับใช้ท่าทีที่ก้าวร้าวมาประนามรัสเซีย และข่มขู่ที่จะคว่ำบาตรรัสเซีย พร้อมทั้งจะขับออกจากกลุ่ม G8 ซึ่งคาราซินชี้ว่า ชาติตะวันตกควรจะต้องทำความเข้าใจรัสเซียให้มากกว่านี้
ทางด้านวลาติน บาดแรค ผู้อำนวยการศูนย์การทหารแห่งยูเครน การเปลี่ยนและการศึกษาการปลดอาวุธ หรือ (CACDS) ที่ได้ถูกอ้างผ่านหนังสือพิมพ์Nezavisimaya Gazeta เปรียบเทียบศักยภาพกองทัพระหว่างยูเครนและรัสเซียว่า โปรแกรมการพัฒนากำลังรบของยูเครน หรือ UAF นั้นอยู่ในระดับเป็น “ศูนย์” ซึ่งสอดคล้องกับเมื่อวานนี้ (2) ที่รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนรักษาการ อิกอร์ เตนยุค ได้แถลงกลางรัฐสภายูเครนยอมรับว่า ยูเครนไม่มีศักยภาพทางการทหารที่จะต่อต้านกองทัพรัสเซียได้ อ้างจากสมาชิกผู้แทนราษฎรยูเครน 2 คนที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งเตนยุคได้ขอให้ใช้วิธีทางการทูตแทนในการแก้ปัญหาขัดแย้ง
ในขณะที่สภาพทั่วไปที่เขตแหลมไครเมียซึ่งเป็นเขตกึ่งปกครองตนเองเมื่อวานนี้ (2) รถคอนวอยทหารของรัสเซีย 13 คันได้ขนทหารรัสเซียหลายร้อยนาย และมีทหารรัสเซียที่ไม่ติดเครื่องหมายมาประจำตามจุดสำคัญทั่วไครเมีย เช่น สนามบิน ส่วนราชการของรัฐบาลท้องถิ่นไครเมีย พร้อมกับห้ามไม่ให้กองกำลังทหารยูเครนเดินทางเข้าและออกไครเมีย นอกจากนี้ยังทำการปลดอาวุธพวกเขา ที่รวมไปถึงปืนพก ปืนไรเฟิล และกระสุนปืน โดยทหารเรือยูเครนที่ประจำในศูนย์การฝึกอยู่ในเมืองเซวาสโตโปล และศูนย์เรดาร์ นั้นถูกปลดอาวุธ อ้างจากสำนักข่าวอินเตอร์แฟกส์รายงานเมื่อวานนี้ (2) ด้านผู้บัญชาการกองทัพเรือยูเครนประจำเฟโอโดเซีย ดมีโตร เดลีอติตสกี (Dmytro Delyatytski) ได้สั่งการให้ทหารใต้บังคับบัญชาของเขาเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด และได้สั่งให้สร้างแนวป้องกันที่ฐานทัพเรือของพวกเขา โดยรายงานระบุว่า เดลีอติตสกีปฎิเสธคำขอของรัสเซียที่จะยอมปลดอาวุธ
และล่าสุดในวันนี้ (3) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเซอร์เก ลาฟรอฟ ได้โทรศัพท์ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องสถานการณ์ยูเครน ซึ่งทางจีนได้เห็นด้วยกับรัสเซียในกรอบกว้าง ซึ่งในขณะนี้ทางรัสเซียถูกโลกตะวันตกกดดันอย่างหนักหลังจากได้ส่งกองกำลังไปยังไครเมีย อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่ม G8 ที่สหรัฐฯ และยุโรปขู่จะตัดรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิก