xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แทนรัสเซียประจำ UN เผย “ยานูโควิช” เขียนจดหมายขอร้องให้ “ปูติน” ส่งทหารบุกไครเมีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 15 ชาติได้เปิดประชุมฉุกเฉินวานนี้(3) ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 วันเพื่อหารือทางออกสำหรับวิกฤตยูเครน
เอเอฟพี - ผู้แทนรัสเซียแถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า อดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครนเป็นผู้ร้องขอให้มอสโกส่งกองกำลังเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยบนคาบสมุทรไครเมีย

คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 15 ชาติ ได้เปิดประชุมฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 วันเพื่อหารือทางออกสำหรับวิกฤตยูเครน ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างตึงเครียดและมีการชี้หน้าตำหนิซึ่งกันและกัน ขณะที่ผู้แทนฝรั่งเศสเปรียบเปรยสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นว่า ไม่ต่างจากเมื่อครั้งสหภาพโซเวียตบุกเชโกสโสวาเกียในช่วงสงครามเย็น

คณะผู้แทนยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียได้ส่งทหารเข้าไปยังคาบสมุทรไครเมียแล้วราวๆ 16,000 นาย ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และกองทัพเรือหมีขาวยังส่งเรือรบ 10 ลำไปปิดทางเข้าออกทะเลดำไว้ด้วย

“หน่วยรบพิเศษของรัสเซียยังยึดค่ายทหารและหน่วยป้องกันชายแดนในไครเมีย และเสนอให้กองทัพยูเครนยอมจำนนภายใน 18.00 น.วันนี้”

วิทาลีย์ เชอร์คิน ผู้แทนรัสเซียในยูเอ็น อ้างถึงความชอบธรรมของปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ โดยชี้ว่าอดีตประธานาธิบดียานูโควิชซึ่งถูกรัฐสภายูเครนถอดถอน ได้หลบหนีไปพึ่งพารัสเซีย และขอร้องให้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ช่วยเหลือ

เชอร์คิน ได้อ้างข้อความในจดหมายที่ ยานูโควิช ส่งถึง ปูติน เมื่อวันที่ 1 มีนาคมว่า “ยูเครนกำลังเสี่ยงที่จะเกิดสงครามกลางเมือง เวลานี้ในประเทศมีแต่ความสับสนอลหม่านและภาวะอนาธิปไตย... อิทธิพลของชาติตะวันตกส่งเสริมให้มีการใช้ความรุนแรงอย่างโจ่งแจ้ง ประชาชนถูกโจมตีด้วยเรื่องภาษาและจุดยืนทางการเมือง”

“ดังนั้น ผมจึงขอวิงวอนให้ประธานาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย ช่วยส่งทหารของสหพันธรัฐรัสเซียเข้าไปคืนความสงบเรียบร้อย, การบังคับใช้กฎหมาย และความมั่นคง ตลอดจนปกป้องพลเมืองยูเครนด้วย”

รัฐสภารัสเซียได้เปิดประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ (3) เพื่อวางกรอบนโยบายต่อปัญหายูเครน หลังจากที่สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ขู่จะคว่ำบาตรมอสโกเพื่อลงโทษที่ละเมิดอธิปไตยของกรุงเคียฟ

อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ต่างติเตียนรัสเซียว่าพยายามหาข้ออ้างฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ

ซาแมนธา เพาเวอร์ ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ชี้ว่ายังไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันว่าชาวรัสเซียหรือพลเมืองยูเครนที่ให้การสนับสนุนรัสเซียถูกล่วงละเมิดตามที่มอสโกอ้าง

“ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียไม่ใช่ภารกิจปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ” เพาเวอร์กล่าว

หลังจาก เชอร์คิน ได้บรรยายเรื่องหลักประชาธิปไตยให้ผู้แทนจากชาติต่างๆฟัง เพาเวอร์ ก็ตั้งคำถามขึ้นมาว่า “แล้วทำไมถึงไม่สนับสนุนให้ตั้งผู้แทนนานาชาติเป็นคนกลางล่ะ? ทำไมจึงไม่ถอนทหารรัสเซียออกมา แต่กลับส่งเข้าไปเพิ่มมากขึ้นอีก?”

ด้าน มาร์ค ลีออล แกรนท์ ผู้แทนจากอังกฤษ ก็เรียกร้องให้รัสเซียยอมรับแผนส่งผู้สังเกตการณ์นานาชาติเข้าไปในยูเครน

เฌราร์ด อาโรด์ ผู้แทนฝรั่งเศส เปรียบเทียบการกระทำของรัสเซียในไครเมียว่า ไม่ต่างจากเมื่อครั้งสหภาพโซเวียตนำกำลังบุกเชโกสโลวาเกียในปี 1968

“ตอนที่ทหารโซเวียตบุกเชโกสโลวาเกีย ผมเพิ่งอายุ 15 ปี พวกเขาก็ใช้เหตุผลเดียวกันนี้”

อาโรด์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การประชุมครั้งนี้ “ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง” และตนรู้สึกผิดหวังที่รัสเซีย “เอากระดาษแผ่นเดียวจากประธานาธิบดีที่ถูกโค่น มาเป็นเครื่องยืนยันความชอบธรรมในการส่งทหารบุกไครเมีย”

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม อาโรด์ ว่า เขาคิดว่าจดหมายฉบับนี้เป็นของปลอมหรือไม่ ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “จดหมายไม่ได้ปลอม แต่ตัวประธานาธิบดีต่างหากที่ปลอม”
วิทาลีย์ เชอร์คิน ผู้แทนรัสเซียประจำยูเอ็น
ซาแมนธา เพาเวอร์ ผู้แทนสหรัฐฯ
ยูรี เซอร์เกเยฟ ผู้แทนยูเครน
กำลังโหลดความคิดเห็น