เอเอฟพี – รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงเตือนวานนี้(28)ว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และผู้นำชาติยุโรป อาจไม่เดินทางไปร่วมการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ จี 8 ที่รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพ หากมอสโกส่งทหารบุกรุกเขตปกครองตนเองไครเมียซึ่งอยู่ในอำนาจอธิปไตยของยูเครน
โอบามา แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในยูเครน หลังมีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียถูกส่งเข้าไปยังคาบสมุทรไครเมีย และก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่กรุงเคียฟก็ยืนยันว่า “แผนรุกราน” ของมอสโกกำลังเกิดขึ้นแล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า โอบามา ตัดสินใจเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวอย่างกะทันหันวานนี้(28) หลังจากที่วอชิงตันพบหลักฐานชัดเจนว่ากองกำลังรัสเซียกำลังปฏิบัติการบางอย่างอยู่ในดินแดนของยูเครน
กลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธในเครื่องแบบทหารที่ปราศจากเครื่องยศได้เข้าปิดล้อมสถานที่ราชการและสนามบินนานาชาติในเมืองซิมเฟโรโพล เมืองหลวงของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย โดยเจ้าหน้าที่ยูเครกล่าวโทษรัสเซียว่าแสดง “ความก้าวร้าว” ออกมาอย่างชัดแจ้ง
วิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยูเครนหลังจากประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งมีจุดยืนเอียงข้างรัสเซียถูกรัฐสภายูเครนถอดถอน ส่อเค้าลุกลามจนกลายเป็นการแย่งชิงดินแดน โดยฝ่ายยูเครนอ้างว่ารัสเซียส่งทหารราว 2,000 คนเข้าไปในแหลมไครเมียซึ่งเป็นดินแดนในอาณัติของยูเครน แม้พลเมืองส่วนใหญ่จะใช้ภาษารัสเซียก็ตาม
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “เรารู้สึกกังวลต่อรายงานเรื่องความเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียภายในดินแดนของยูเครน”
เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กลังจบถ้อยแถลงของ โอบามา ว่า “ดูเหมือนรัสเซียจะส่งทหารเข้าไปในไครเมียหลายร้อยคน” โดยไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า
โอบามา ทราบดีว่ารัสเซียมีผลประโยชน์และความสัมพันธ์ทั้งในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจกับยูเครน และมีฐานทัพแห่งหนึ่งอยู่ในไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่สหภาพโซเวียตได้ยกให้แก่สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครนในปี 1954
อย่างไรก็ดี การละเมิดอธิปไตยและความเป็นปึกแผ่นของดินแดนยูเครน จะถือว่าเป็น “การบ่อนทำลายอย่างร้ายแรง”
“สหรัฐฯและประชาคมโลกขอแสดงจุดยืนร่วมกันว่า รัสเซียจะต้องถูกตอบโต้ หากมีการส่งทหารเข้าแทรกแซงยูเครน” โอบามา กล่าว
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ชี้ว่า โอบามาและผู้นำชาติยุโรปอาจตัดสินใจคว่ำบาตรการประชุมสุดยอดผู้นำ จี8 ซึ่งมีกำหนดเปิดฉากขึ้นในเดือนมิถุนายนที่เมืองโซชิ นอกจากนี้ การแทรกแซงยูเครนยังอาจทำให้ภาพลักษณ์ดีๆ ที่รัสเซียได้รับจากการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวต้องถูกทำลายลงไป
นอกจากคำขู่เหล่านี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นชัดเจนว่าสหรัฐฯจะมีอำนาจต่อรองกับรัสเซียมากน้อยแค่ไหนในเรื่องของยูเครน ทั้งยังไม่มีแนวโน้มว่าวอชิงตันหรือชาติพันธมิตรจะใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้การกระทำของมอสโก แม้แต่การผลักดันมติประณามจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็คงไม่เป็นผล เพราะรัสเซียซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรสามารถใช้สิทธิ์ “วีโต” ได้
สหรัฐฯ พยายามที่จะหลีกเลี่ยง “สงครามเย็น” ครั้งใหม่กับรัสเซีย เนื่องจากยังต้องการความร่วมมือจากประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่าน, การกำจัดคลังอาวุธเคมีของซีเรีย รวมไปถึงปฏิบัติการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน