รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทำเนียบขาวแถลงในวันเสาร์ (22) ระบุ สหรัฐฯมีความยินดีที่ นางยูเลีย ตีโมเชงโก อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของยูเครน ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ พร้อมยืนยันยินดีร่วมมือกับรัสเซีย ยุโรป และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการสร้างเอกภาพและส่งเสริมประชาธิปไตยในยูเครน
คำแถลงของทำเนียบขาวระบุว่า สถานการณ์ล่าสุดในยูเครนที่นำไปสู่การถอดประธานาธิบดี วิคตอร์ ยานูโควิช ออกจากอำนาจและการได้รับอิสรภาพของนางตีโมเชงโก ตลอดจน การประกาศจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ก่อนกำหนดในวันที่ 25 พฤษภาคม ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง และเป็นการดำเนินการอย่างสร้างสรรค์ของ “รัฐสภายูเครน” ในการฝ่าทางตันให้กับวิกฤตการเมืองของประเทศด้วยวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวได้วิงวอนผ่านคำแถลงล่าสุด ขอให้ทุกฝ่ายในยูเครนยุติความรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 รายในกรุงเคียฟ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พร้อมขอให้นางตีโมเชงโก วัย 53 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมาแล้วถึง 2 สมัย ฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยซึ่งเป็นผลจากการถูกจองจำด้วยข้อหาทางการเมืองโดยเร็ว
นางตีโมเชงโก ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกนาน 7 ปี เมื่อปี 2011 จากความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบในการทำข้อตกลงด้านพลังงานกับรัสเซีย และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า เธอถูกตัดสินความผิดดังกล่าวโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามที่สนับสนุนวิคตอร์ ยานูโควิช อยู่เบื้องหลัง
นอกเหนือจากท่าทีล่าสุดของทำเนียบขาวแล้ว มีรายงานว่า นางตีโมเชงโก ซึ่งต้องนั่งอยู่ในรถเข็นวีลแชร์ ได้ออกมาปรากฏตัวกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจำนวนหลายพันคนในกรุงเคียฟ โดยเธอเรียกร้องให้บรรดาผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนเดินหน้ารวมตัวแสดงพลังอันบริสุทธิ์ต่อไป และอย่าเพิ่งยุติการประท้วงใจกลางกรุงเคียฟ ที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ถึงแม้รัฐสภายูเครนจะมีมติถอด วิคตอร์ ยานูโควิช พ้นเก้าอี้ประธานาธิบดีไปแล้ว พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ยูเครนจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (อียู) อย่างแน่นอน
ด้าน ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ออกโรงวิงวอนให้ทุกฝ่ายในยูเครนคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและความเป็นเอกภาพของยูเครน โดยขอให้หลีกเลี่ยงการปลุกปั่นทางการเมืองที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงระลอกใหม่ พร้อมแสดงความคาดหวังว่าการพูดคุย การประนีประนอม รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นที่ยอมรับ จะช่วยคลี่คลายความแตกต่างระหว่างฝ่ายต่างๆ ในยูเครนได้
