เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สหภาพยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี (20) เห็นพ้องออกมาตรการคว่ำบาตรห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์ชาวยูเครนที่มือเปื้อนเลือด ตอบโต้เหตุปราบปรามนองเลือดตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ระหว่างกองกำลังความมั่นคงกับผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่คร่าชีวิตหลายสิบศพ อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งความพยายามเจรจายุติความรุนแรงที่มีอียูเป็นคนประสานก็มีเค้าโครงออกมาเป็นบวก
เอ็มมา โบนิโน รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี เปิดเผยว่าเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของ 28 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป เห็นพ้องต้องกันต่อมาตรการห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์ชาวยูเครนที่มือเปื้อนเลือด แต่ในส่วนของจำนวนผู้ถูกจัดอยู่ในบัญชีดำนั้นจะขึ้นอยู่กับหลักฐานต่างๆ ขณะที่แหล่งข่าวเสริมว่าการทำงานสำหรับกำหนดรายชื่อที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชน ก่อความรุนแรงและใช้กำลังเกินกว่าเหตุ น่าจะเริ่มต้นได้ในวันศุกร์ (21)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการกลับลำของสหภาพยุโรป หลังจากก่อนหน้านี้ขัดขืนเสียงเรียกร้องออกมาตรการคว่ำบาตรมาโดยตลอด แม้ว่าพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำวีซ่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนกว่า 20 คนแล้วก็ตาม
เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป ได้เปิดประชุมฉุกเฉินในประเด็นยูเครน ที่เมืองบรัสเซลส์ ในวันพฤหัสบดี (20) และโบนิโน บอกหลังจากเสร็จสิ้นการหารือว่าจะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างเร็วที่สุดภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า พร้อมยังเผยว่าสมาชิกอียู ยังเห็นพ้องเสนอให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาและออกวีซ่าแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะ รวมถึงผู้ต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้แล้วยังระงับการส่งออกอุปกรณ์ปราบปรามจลาจลไปยังยูเครนด้วย
การตัดสินออกมาตรการคว่ำบาตร มีขึ้นขณะที่คณะผู้แทนอียู 3 ราย ได้แก่ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ กำลังอยู่ในยูเครน โดยทั้ง 3 คน ได้หารือกับประธานาธิบดี วิกตอร์ ยานูโควิช และ 3 แกนนำหลักของฝ่ายต่อต้านเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ถึง “โรดแมป” ที่พอจะเป็นไปได้ในการยุติความรุนแรงและเริ่มต้นการเจรจาที่แท้จริง
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นรูปเป็นร่าง แต่ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์เผยว่าเหล่า 3 รัฐมนตรีตัวแทนของอียู จะยังเดินหน้าพูดคุยเจ้าหน้าที่ยูเครนและแกนนำฝ่ายค้านตลอดทั้งคืน ขณะที่ นายวิตาลี คลิตช์โก หนึ่งในแกนนำฝ่ายค้าน แสดงความหวังว่ารัฐมนตรีต่างประเทศจากเยอรมนี ฝรั่งเศส และโปแลนด์ จะบรรลุข้อตกลงโรดแมปกับประธานาธิบดียานูโควิช และพวกเขาได้ในช่วงค่ำวันนี้ “ยังไม่มีการตัดสินใจที่ชัดเจน เราหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ในคืนนี้” พร้อมบอกว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับนายยานูโควิช
ความพยายามคลี่คลายวิกฤตด้วยการเจรจา มีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟ ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 ราย ในเหตุปะทะ 2 ระลอกระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจปราบจลาจลตั้งแต่วันอังคาร (18) ที่ผ่านมา สูงกว่าตัวเลขของหน่วยงานอื่นๆ ที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หน่วยแพทย์ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอ้างว่าแค่วันพฤหัสบดี (20) วันเดียว มีผู้ประท้วงถูกตำรวจยิงตายถึง 67 คนแล้ว