รอยเตอร์/บีบีซี - ประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช เผยในช่วงค่ำวันพุธ (19) ว่าบรรลุข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวกับเหล่าแกนนำฝ่ายต่อต้าน หลังเกิดเหตุปะทะนองเลือด 26 ศพช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าเขาจะเข้าร่วมประชุมกับคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู ซึ่งขู่ออกมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้เหตุรุนแรงภายในยูเครน
ถ้อยแถลงสั้นๆ บนเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดี แจ้งว่าข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวนี้ มีขึ้นเพื่อเปิดทางสำหรับการเริ่มต้นเจรจาที่มีเป้าหมายยุติเหตุนองลือด และรักษาสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่านี้ เพื่อความสงบสุขของสังคม
ผู้ชุมนุมยังคงเผชิญหน้าอย่างเคร่งเครียดกับตำรวจปราบจลาจล แม้ล่วงเลยเข้าสู่เช้ามืดวันพฤหัสบดี (20) ขณะที่เหล่ารัฐมตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ มีกำหนดเข้าพบกับยานูโควิชในกรุงเคียฟ ก่อนเดินทางกลับไปยังบรัสเซลส์ สำหรับหารือกับเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ 28 ชาติสหภาพยุโรป เพื่อตัดสินใจว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรยูเครน ต่อเหตุความรุนแรงเมื่อช่วงค่ำคืนวันอังคาร (18) หรือไม่
เหตุปะทะในวันอังคาร (18) ได้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 26 ศพ นับเป็นเหตุนองเลือดที่สุดตั้งแต่การประท้วงต่อต้านนายยานูโควิช ปะทุขึ้นเมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน หลังจากเขายกเลิกข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป แล้วหันไปสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยูเครน อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีรายนี้ ประณามเหตุความรุนแรงใจกลางกรุงเคียฟเมื่อวันก่อนว่า เป็นความพยายามก่อรัฐประหาร
พร้อมกันนั้น ในวันพุธ (19) หน่วยงานความมั่นคงของเขาก็ได้ประกาศปฏิบัติการก่อการร้ายทั่วประเทศ หลังมีอาวุธและกระสุนถูกขโมยไปเป็นจำนวนมาก และจากนั้นไม่นานทำเนียบประธานาธิบดีก็ออกถ้อย แถลงว่านายยานูโควิชได้มีคำสั่งปลดพลเอกโวโลดีมีร์ ซามานา ลงจากเก้าอี้หัวหน้าเสนาธิการทหาร แล้วแต่งตั้งพลเรือเอกยูริ อิลอิน ผู้บัญชาการกองทัพเรือขึ้นดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ในคำแถลงไม่ได้ให้เหตุผลถึงการปลดพลเอกซามานาแต่อย่างใด
ข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวมีขึ้น ขณะที่เหล่าผู้แทนสหภาพยุโรปในวันพุธ (19) ได้เริ่มต้นพิจารณาหารือมาตรการคว่ำบาตรที่พอจะเป็นไปได้ต่างๆต่อยูเครน ในนั้นรวมถึงการยึดทรัพย์สินหรือแม้แต่ห้ามเดินทาง ส่วนทางวอชิงตันก็กำลังตรึกตรองถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุความรุนแรง ซึ่งในกรณีนี้พวกเขาชี้ชัดไปที่รัฐบาลของนายยานูโควิช