xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กอียูเข้าถก ปธน.ยูเครน-ฝ่ายต่อต้าน วอนทุกฝ่ายเจรจาฝ่าวิกฤตการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางแคทเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (ขวา) เข้าหารือกับประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน(ซ้าย)
เอเจนซี - หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูเข้าถกประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิชและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในกรุงเคียฟเมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) ขอผู้นำยูเครนแก้ไขความรุนแรงบนท้องถนน และเรียกร้องทุกฝ่ายทางการเมืองพยายามแสวงหาการเจรจาเพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤต

นางแคทเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงกับผู้สื่อข่าวหลังจากพบเข้าเหล่าแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและประธานาธิบดียานูโควิช ต่างสถานที่ต่างเวลาในกรุงเคียฟ ว่าอียูพร้อมให้ความช่วยเหลือยูเครนในหลายๆทาง ทั้งด้านการเงินและความชำนาญ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงช่วย เหลือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อพูดถึงเหตุเผชิญหน้ารุนแรงบางครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่และฝ่ายต่อต้านนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา นางแอชตันเชื่อว่ากระบวนการประนีประนอมและปฏิรูปที่นำโดยคนยูเครนเองยังมีความเป็นไปได้อยู่ อย่างไรก็ตามเธอบ่งชี้ถึงความผิดหวังที่ทางการและฝ่ายค้านขาดความพยายามประนีประนอมอย่างแท้จริง

ส่วนในกรณีที่มีสิ่งบ่งชี้ต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้จากตัวเธอเองและเจ้าหน้าสหรัฐฯ ว่า วอชิงตันและอียูกำลังพิจารณาเสนอให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน นางแคทเธอรีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า “ในแง่การให้ความสนับสนุนทางเศรษฐกิจ มันไม่ใช่แค่เรื่องของอียูหรือเงินก้อนใหญ่เท่านั้น” พร้อมบอกต่อประเด็นที่ควรใส่ใจคือรูปแบบของการสนับสนุน ในประกอบด้วยทักษะความเชี่ยวชาญ ความสามารถทางเทคนิค ทรัพยากรที่พอจะมอบให้ได้ รวมถึงบทบาทของสถาบันนานาชาติต่างๆ และชาติสมาชิกอียูทั้งหลาย

ในถ้อยแถลงเดียวกันนั้น เธอยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความรุนแรงบนท้องถนนที่ยังไม่ลดละในยูเครน พร้อมเผยด้วยว่าระหว่างการหารือเธอได้ร้องขอประธานาธิบดียานูโควิช หาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้

มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย นับตั้งแต่การประท้วงปะทุขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หลังจากประธานธิบดียานูโควิช ยกเลิกข้อตกลงการค้ากับอียูแล้วหันไปรับความช่วยเหลือจากรัสเซียแทน แอชตัน กล่าวต่อว่า “เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกก่อเหตุรุนแรงต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” และทางอียูมีความตั้งใจสนับสนุนกระบวนการที่อิสระและโปรงใสนั้น

เจ้าหน้าที่กล่าวโทษพวกฝ่ายต่อต้านหัวรุนแรงอยู่เบื้องหลังเหตุนองเลือด ส่วนเหล่าแกนนำฝ่ายค้าน ซึ่งถูกมองว่าฝักใฝ่อียู กล่าวโทษตำรวจปราบจลาจลและกลุ่มอันธพาลสนับสนุนรัฐบาลอยู่เบื้องหลังเหตุทุบตี ลักพาตัวและข่มขู่คุกคามอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น