เอเอฟพี - ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยูเครนในวันศุกร์(24) เข้ายึดอาคารรัฐบาลในอีกหลายเมืองทางภาคตะวันตกของประเทศ หลังบุกเข้าไปอาคารต่างๆเหล่านั้น นับเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิช ที่กำลังพยายามเจรจาคลี่คลายวิกฤตความรุนแรงที่ปะทุขึ้นจากความไม่พอใจที่รัฐบาลของเขาออกกฎหมายต่อต้านการชุมนุม
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ประท้วง เพิ่มแนวโน้วว่าประธานาธิบดียานูโควิช กำลังสูญเสียการควบคุมประเทศ ขณะที่เขากำลังเผชิญกับการประท้วงใหญ่ในกรุงเคียฟ
เหตุบุกยึดเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี(23) เหล่าผู้ประท้วงเข้ายึดอาคารราชการแคว้นลวีฟ ทางตะวันตกของประเทศ และบังคับใช้นายโอเลก ซาโล ผู้ว่าการแคว้นเขียนจดหมายลาออก ทั้งนี้นายซาโอ ก็เหมือนกับเหล่าผู้ว่าราชการจังหวัดอื่นๆทุกคน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายยานูโควิช
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเขาบอกว่าใบลาออกนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมายและตนเองดำเนินการภายใต้แรงกดดัน ด้วยเหตุนี้จึงสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ชุมนุมบางส่วนราว 200 คน ที่ตัดสินใจปักหลักค้างคืนในตึกและไม่มีท่าทีจะยอมออกมาแต่อย่างใด ขณะเดียวกันบริเวณด้านนอกของเมือง ผู้ประท้วงอีกกลุ่มก็ปิดกั้นถนนที่มุ่งหน้าสู่ชายแดนโปแลนด์
สำหรับประธานธิบดียานูโควิช ไม่เป็นที่ชื่นชมของประชาชนในภาคตะวันตกเท่าใดนัก ด้วยชาวบ้านแถบนี้ต้องการเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปและหย่อนความสัมพันธ์กับรัสเซีย ดังนั้นผู้ประท้วงส่วนใหญ่ที่รวมตัวกันแสดงพลังต่อต้านยานูโควิชในกรุงเคียฟ จึงไม่ได้มาจากเมืองหลวง แต่จำนวนมากเดินทางมาจากทางภาคตะวันตกของประเทศ
มีรายงานว่าได้เกิดเหตุปะทะอย่างหนักหน่วงช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาในเมืองเชียร์คาซี ทางใต้ของกรุงเคียฟ หลังผู้ประท้วงบุกเข้าไปยังสำนักงานราชการ แต่จากนั้นตำรวจก็ดำเนินการผลักดันผู้ชุมนุมออกมาและสามารถยึดตึกคืนมาได้ รวมทั้งยังจับกุมประชาชน 58 คน ฐานทำลายทรัพย์สิน ขณะที่นักเคลื่อนไหวบอกว่ามีผู้ประท้วงวัยหนุ่มคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตอนนี้กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยอาการขั้นวิกฤต
ในแคว้นอีวาโน-ฟรังคิฟสค์ พบเห็นผู้ประท้วงหลายพันคนบุกเข้าไปยังสำนักงานบริหารท้องถิ่นและควบคุมอาคารดังกล่าวไว้ แม้ตำรวจจพยายามใช้แก๊สน้ำตาขับไล่ ขณะเดียวกันนักเคลื่อนไหวบางส่วนก็บุกเข้าไปยังสำนักงานของผู้ว่าการแคว้น แต่ตอนเกิดเหตุผู้ว่าฯไม่ได้อยู่ที่นั่น
ทั้งนี้ยังพบเห็นการบุกยึดและปักหลักค้างคืนอาคารรัฐบาลอีกหลายแคว้น ไม่ว่าจะเป็นแคว้นริฟเน แคว้นเตียร์โนปิลและแคว้นคเมลนิตสกี ส่วนที่เมืองลัตส์ค ในแคว้นโวลิน ตำรวจปล่อยให้เข้าไปยังอาคารรัฐบาลโดยปราศจากการขัดขืนใดๆ หลังจากผู้ว่าการแคว้นแถลงลาออก ขณะที่ในแคว้นเชียร์นิฟต์ซี ติดกับชายแดนโปแลนด์ ผู้ประท้วงหลายพันคนบุกเข้าไปยังสำนักงานผู้ว่าการแคว้น มีคฮาอิโล ปาเปียฟ บังคับให้เขายกอาคารให้อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ชุนุม
อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานของการชุมนุมใดๆในทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งส่วนใหญ่ภักดีต่อยานูโควิช ตลอดวิกฤตที่ผ่านมา อันมีชนวนจากที่ประธานาธิบดีรายนี้กลับลำไม่ยอมลงนามข้อตกลงกระชับสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป (อียู) ภายใต้การกดดันจากรัสเซีย ก่อนถูกซ้ำเติมจากกรณีที่เขาออกกฎหมายต่อต้านการชุมนุม
ประเด็นทางวัฒนธรรมและภาษาที่ยุ่งยากซับซ้อนของยูเครน ได้ก่อปัญหารื้อรังมานาน แม้กระทั่งนักวิเคราะห์บางส่วนยังเคยเตือนว่าประเทศแห่งนี้อาจแตกเป็นสองได้ในอนาคต ทั้งนี้คนส่วนใหญ่ทางตะวันตกพูดภาษายูเครน และมองการใช้กฎเกณฑ์แบบโซเวียตในยูเครนคือความพยายามเข้ายึดครอง
