เอเอฟพี – สภาผู้แทนราษฎรยูเครนผ่านกฎหมายห้ามชุมนุมประท้วง ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี เมื่อวันพฤหัสบดี (16) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นความพยายามของรัฐที่จะสกัดกั้นประชาชนนับแสนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซึ่งยังคงปักหลักชุมนุมในกรุงเคียฟมานานเกือบ 2 เดือน เพราะไม่พอใจที่ ยานูโควิช ยกเลิกแผนเจรจาความร่วมมือด้านการค้าและการเมืองกับสหภาพยุโรป (อียู) ประณามการโหวตกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็นการ “รวบอำนาจ”
ภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่งผ่านสภาด้วยคะแนนเสียง 235 จากทั้งหมด 450 เสียง ผู้ที่ชุมนุมปิดอาคารสถานที่สาธารณะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ส่วน ส.ส.หรือผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากหรือหมวกปิดบังใบหน้า จะถูกปรับเงินหรือถูกจับกุมได้ทันที
กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามมิให้มีการเผยแพร่ข้อความดูหมิ่นผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผู้ฝ่าฝืนจะต้องโทษปรับ หรือถูกบังคับใช้แรงงานสูงสุด 1 ปี
บรรดาผู้นำฝ่ายค้านต่างออกมาประท้วงกฎหมายความมั่นคงฉบับล่าสุด เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลจะใช้เป็นเครื่องมือเอาผิดกับพวกเขาและเข้าสลายการชุมนุม
“รัฐบาล วิกเตอร์ ยานูโควิช และพรรครีเจียนส์ได้ทำลายอำนาจรัฐของยูเครนไปหมดสิ้นแล้ว... นี่ไม่ใช่อะไรเลยนอกจากการล้มล้างรัฐธรรมนูญและรวบอำนาจ” อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค ผู้นำพรรค Batkiveshchyna ให้สัมภาษณ์
ด้านสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลในเรื่องนี้ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เจน ซากี ระบุว่า รัฐสภายูเครน “ได้อนุมัติมาตรการที่ก่อความขัดแย้งมากมายในวันนี้ โดยไม่ยึดถือกระบวนการที่เหมาะสม”
“หากยูเครนปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งกับสหภาพยุโรปในอนาคต รัฐบาลจะต้องปกป้องและผลักดันความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ยุโรปมีเอกภาพ, เสรีภาพ และสันติภาพ และอย่าปล่อยให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกล้มล้างอย่างเป็นระบบ”
เมื่อเดือนธันวาคม ชาวยูเครนหลายแสนคนได้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงเคียฟและเมืองทางตะวันตกของประเทศ หลังประธานาธิบดี ยานูโควิช ตัดสินใจล้มเลิกการทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการเมืองและการค้ากับอียู เพราะเกรงอิทธิพลของ “นายเก่า” อย่างรัสเซีย
แม้จำนวนผู้เข้าร่วมจะลดลงไปบ้าง แต่แกนนำฝ่ายต่อต้านยังคงปักหลักยึดพื้นที่จัตุรัสอินดิเพนเดนซ์ใจกลางกรุงเคียฟ หรือที่เรียกในภาษาท้องถิ่นว่า จัตุรัสไมดัน
ส.ส.ฝ่ายค้านพยายามขัดขวางการออกกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้อย่างเต็มที่ ทว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลใช้วิธีโหวตโดยการชูมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต่างชาติรู้สึกกังวล
“ผมรู้สึกเป็นห่วงวิธีการที่รัฐสภายูเครนใช้โหวตร่างกฎหมายในวันนี้ อันที่จริงควรจะมีบรรทัดฐานที่บังคับใช้อย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสถาบันประชาธิปไตยและระบบกฎหมายของยูเครน” แจน ทอมบินสกี เอกอัครราชทูตอียูประจำยูเครน ออกมาเตือน
