สิงคโปร์กริ้วหนัก อินโดฯตั้งชื่อเรือรบตามสายลับวางระเบิดถล่มแดนลอดช่อง

เอเอฟพี - สิงคโปร์เมื่อวันอังคาร (18) เผยจะห้ามเรือกองทัพเรืออินโดนีเซียลำหนึ่ง เข้าจอดที่ท่าเรือและตามฐานทัพเรือต่างๆ เนื่องจากมันถูกตั้งชื่อตามนาวิกโยธิน 2 นายซึ่งก่อเหตุวางระเบิดโจมตีศูนย์ราชการแห่งหนึ่งของแดนลอดช่องในช่วงทศวรรษ 1960

นายอึ้ง เอ็ง เฮน รัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ บอกว่าเรือลำดังกล่าวจะถูกห้ามเทียบเท่า ส่วนหนึ่งในข้อพิพาทเกี่ยวกับการตัดสินใจของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ที่ตั้งชื่อเรือฟริเกตปรับโฉมใหม่ลำนี้ ตามนาวิกโยธิน 2 นาย ได้แก่อุสมัน ฮาจิ โมฮาเหม็ด อาลี และฮารัน ซาอิด

ทั้งสองคนถูกพิพากษาว่ามีความผิดและประหารชีวิตในสิงคโปร์ ฐานวางระเบิดเมื่อเดือนมีนาคม 1965 คร่าชีวิตผู้คนไป 3 รายและบาดเจ็บ 33 คน แต่นาวิกโยธินทั้ง 2 นาย ซึ่งปลอมตัวเป็นพลเมืองแดนลอดช่องเข้าไปยังสิงคโปร์ ถูกรับการเชิดชูเยี่ยงวีรชนในอินโดนีเซีย

การแทรกซึมอย่างลับๆ ของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของซูการ์โน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ณ ขณะนั้น สำหรับจัดฉากเหตุเผชิญหน้าโดยใช้อาวุธกับดินแดนสหพันธ์ มาเลเซีย ซึ่งในเวลานั้นรวมไปถึงสิงคโปร์ด้วย

“สิงคโปร์จะไม่ยอมให้เรือกองทัพลำนี้ที่มีชื่อว่า อุสมาน ฮารัน เข้าจอดที่ท่าเรือและฐานทัพเรือของเรา” นายอึ้ง เอ็ง เฮน บอกกับรัฐสภาเมื่อวันอังคาร (18) “มันเป็นไปไม่ได้ที่เรือของกองทัพเรือสิงคโปร์ ในฐานะผู้ปกป้องประเทศ จะแล่นเคียงข้างหรือร่วมซ้อมรบกับเรือลำนี้” พร้อมระบุว่ากระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือรู้สึกผิดหวังและเหี่ยวแห้งต่อความเคลื่อนไหวที่อธิบายไม่ได้ดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ย้ำว่าประเทศของเขาไม่มีเจตนาร้ายใดๆ ต่อการใช้ชื่อนาวิกโยธินทั้ง 2 นายมาตั้งชื่อเรือ “ปัญหาเกิดจากความเข้าใจที่ต่างกันและความคิดที่ต่างกัน” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว “ทำไม เราถึงไม่ยอมรับความเห็นที่ต่างกันนี้ เราควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปหรือวิวาทกันให้หนักหน่วงขึ้น ผมคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นเลย”

รัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ บอกว่าการปรากฏตัวของเรืออินโดนีเซียลำนี้ในน่านน้ำสากล แน่นอนว่ามันจะย้อนให้ระลึกถึงการรุกรานทางทหารและเหตุอาชญากรรมที่ลงมือโดยนาวิกโยธินของอินโดนีเซียทั้ง 2 นาย ซึ่งก่อความเสียสูญทางชีวิตแก่พลเรือนผู้บริสุทธิ์และครอบครัวของพวกเขาในสิงคโปร์ แบบที่ไม่มีวันแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกเลย

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าสิงคโปร์จะไม่ตอบโต้ใดๆ ที่เกินกว่าเหตุต่อความเคลื่อนไหวของอินโดนีเซีย และจะยังคงเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางทหารกับชาติเพื่อนบ้านรายนี้ กระนั้นก็ดีในอีกถ้อยแถลงอีกอัน ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์บอกว่าพวกเขาได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการถึงจาการ์ตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สิงคโปร์ แยกตัวจากมาเลเซีย เป็นประเทศเอกราชในปี 1965 ขณะที่เวลานี้อินโดนีเซีย คือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของสิงคโปร์ โดยมีมูลค่าการค้าทวิภาคีรวมกว่า 62,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2012

ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติดำดิ่งสู่จุดต่ำสุดในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 หลังการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการซูฮาร์โต ด้วยผู้สืบทอดของเขาคือ บี.จี.ฮาบิบี เคยพาดพิงรัฐเกาะเล็กๆ ว่า “จุดแดงเล็กๆ” บนแผนที่โลก อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติดีขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา