เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย ยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลจิงโจ้จะ “ไม่เลิกสอดแนม” อินโดนีเซียอย่างแน่นอน แต่พร้อมที่จะร่วมมือกับจาการ์ตาเพื่อให้ทั้งสองชาติเป็นพันธมิตรที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจกันได้
ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับอินโดนีเซียตกต่ำสุดในรอบหลายปี หลังสื่อหลายสำนักเผยแพร่เอกสารลับของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ซึ่งระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียเคยสอดแนมการใช้โทรศัพท์ของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน รวมถึงภรรยาและบุคคลใกล้ชิดในช่วงปี 2009
จาการ์ตาได้ตอบโต้ข่าวนี้อย่างรุนแรง โดยสั่งระงับความร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลียทั้งในด้านการซ้อมรบ และการต่อสู้ขบวนการค้ามนุษย์ และยังเรียกทูตอิเหนาประจำกรุงแคนเบอร์รากลับประเทศด้วย
เมื่อวานนี้ (5) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองชาติได้ตกลงที่จะเปิด “สายด่วน” และร่างระเบียบปฏิบัติเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นระหว่างกัน โดย จูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของประธานาธิบดี ยุทโธโยโน ตลอดจนชาวอินโดนีเซียทั้งประเทศ
อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ในวันนี้(6)ว่า ออสเตรเลียจะยุติการรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับอินโดนีเซียหรือไม่ แอบบ็อตต์ ก็ตอบชัดเจนว่า “ไม่”
“และทางอินโดนีเซียเองก็คงไม่เลิกสืบข่าวกรองเกี่ยวกับออสเตรเลียเช่นกัน” แอบบ็อตต์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุแฟร์แฟกซ์
“แต่เรายังเป็นมิตรสนิทกัน เรายังเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และผมหวังอย่างยิ่งว่าออสเตรเลียจะเป็นหุ้นส่วนที่อินโดนีเซียไว้วางใจได้ เช่นเดียวกับที่เราอยากจะไว้วางใจพวกเขา”
บิชอป ซึ่งเดินทางเยือนกรุงจาการ์ตาเมื่อวานนี้ (5) แถลงว่า เธอและรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์ตี นาตาเลกาวา แห่งอินโดนีเซีย เห็นชอบที่จะเปิดช่องทางสื่อสาร “หรืออาจจะเรียกว่าฮอตไลน์ก็ได้” เพื่อเป็นก้าวแรกสู่การฟื้นฟูความร่วมมือ และ “หลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์”
แคนเบอร์รายอมรับระเบียบปฏิบัติทั้ง 6 ข้อที่ประธานาธิบดียุทโธโยโนเสนอมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และรับปากว่าจะ “ไม่กระทำการ ไม่ใช้ทรัพย์สิน ทรัพยากร หรือระบบข่าวกรองไปในทางที่อาจจะสร้างความเสียหายต่ออินโดนีเซีย” บิชอปเผย