คาด “เบลเยียม” จะผ่าน “กฎหมายการุณยฆาต” ไม่จำกัดอายุ - อนุญาตให้ “เด็ก” ใช้สิทธิได้เป็นชาติแรกในโลก

เอเจนซีส์ - ในวันนี้ (13 ก.พ.) เบลเยียมจะถือเป็นชาติแรกในโลกที่จะมีกฎหมายการุณยฆาต (euthanasia law) แบบไม่จำกัดอายุ สามารถอนุญาตให้ใช้กฎหมายการุณยฆาตในเด็กที่ป่วยหนักได้ หากสภาผู้แทนราษฎรเบลเยียมโหวตรับรองกฎหมายการุณยฆาตฉบับปรับปรุงใหม่

ในวันนี้ (13) สภาผู้แทนราษฎรเบลเยียมจะลงคะแนนออกเสียงรับรองกฎหมายการุณยฆาต (euthanasia law) แบบไม่จำกัดอายุ ซึ่งเบลเยียมถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มีกฏหมายการุณยฆาตใช้ นอกจากเนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ซึ่งเนเธอร์แลนด์อนุญาตให้ใช้การุณยฆาตแก่เด็กตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป แต่จะถือว่าเบลเยียมเป็นชาติแรกในโลกที่ไม่จำกัดอายุในการใช้วิธีการุณยฆาต ซึ่งกฎหมายการุณยฆาตได้ใช้ในเบลเยียมมาเป็นเวลาถึง 12 ปีแล้ว

การขยายสิทธิที่จะตายสู่เด็กนั้นมีข้อจำกัดมาก โดยร่างกฎหมายการุณยฆาตฉบับปรับปรุงใหม่นี้ระบุว่า เด็กจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่การรักษาทางการแพทย์ไม่อาจช่วยชีวิตได้แล้ว และสภาพของผู้ป่วยไม่สามารถทนทรมานจากการเจ็บป่วยได้ และจะต้องเป็นการป่วยหนักที่อาจต้องจบชีวิตลงในเวลาอันสั้น”

นอกจากนี้ การได้รับอนุญาตของบิดามารดาจากผู้ป่วยเด็กเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งถึงแม้จะไม่ชัดเจนว่าหากบิดาหรือมารดาฝ่ายหนึ่งขัดแย้งในการอนุญาตให้บุตรตนเองใช้วิธีการุณยฆาต และรวมไปถึงนักจิตวิทยาต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กมีความสามารถในการตัดสินใจเรื่องนี้ได้

แต่ถึงร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้จะไม่จำกัดอายุ แต่กระนั้นก็ยังระบุว่าเด็กที่ต้องตัดสินใจในการใช้สิทธิการุณยฆาตนั้นต้องสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่ตนเองกำลังเลือกได้เป็นอย่างดี และต้องอยู่ในภาวะที่รู้สึกตัวในขณะตัดสินใจ ซึ่งยังไม่ชัดว่ากฎหมายนี้จะมีผลอย่างใดต่อเด็กที่มีอายุน้อยมาก และยังมีเสียงคัดค้านมากในเรื่องนี้

โดยกลุ่มที่ต่อต้านการให้สิทธิการุณยฆาตในเด็กระบุว่า “ไม่มีระบบที่แน่นอนที่จะพิสูจน์ได้ว่าเด็กที่ป่วยหนักและกำลังตัดสินใจใช้วิธีการุณยฆาตนั้นมีความสามารถเพียงพอในการเข้าใจสิ่งที่ตนเองเลือกได้อย่างแท้จริง” ซึ่งเอเธียน ดูยาดิน วัย 29 ปีหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงกฎหมายฉบับนี้ได้กล่าว่า “หากคุณได้คุยกับนักจิตวิทยา 3 คน หนึ่งใน 3 ต้องจบลงที่มีความเห็นอนุญาตให้คุณสามารถทำการุณยฆาตได้ ในการสนับสนุนเสรีภาพของเด็ก เรากำลังปล่อยให้คนอื่นตัดสินชะตาของเด็ก”

และนอกจากนี้ กลุ่มต่อต้านยังกล่าวอีกว่า การแพทย์สมัยใหม่นั้นสามารถช่วยเหลือคนไข้ป่วยหนักที่ทรมานจากการอาการเจ็บป่วย หรือความรู้สึกกระวนกระวายใจเนื่องจากอาการขั้นวิกฤต และการอนุญาตการุณยฆาตในเด็กจะส่งผลความเครียดอย่างมากไปสู่ผู้ดูแลที่แต่เดิมก็มีความเครียดเป็นทุนอยู่แล้วที่ต้องดูแลเด็กเล็กที่ป่วยหนัก ในขณะที่ผลสำรวจสาธารณะชี้ว่าประชาชนเบลเยียมส่วนใหญ่สนับสนุนกฎหมายการุณยฆาตไม่จำกัดถึง 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ แต่กลุ่มต่อต้านกลับต้องการให้รัฐสภาเบลเยียมเลื่อนการลงมติออกไป และจัดให้มีการอภิปรายยาวนานขึ้น ซึ่ง Le Soir หนังสือพิมพ์ภาษาฝรั่งเศสที่ทรงอิทธิพลของเบลเยียมได้ลงความเห็นไว้ว่า การมีกฎหมายออกมาเพื่อป้องกันการประพฤติผิดต่อหน้าที่

ด้านกลุ่มผู้สนับสนุนกฎหมายการุณยฆาตในสายการแพทย์ชี้ว่า การุณยฆาตนี้เกิดขึ้นได้น้อยมากในแต่ละปี และยังช่วยให้มีความชัดเจนในเรื่องจริยธรรม เช่น แพทย์ทำการการุณยฆาตในคนไข้เด็กตามคำร้องขอแต่กลับต้องถูกดำเนินคดี

จากตัวเลขของทางการเบลเยียม มีการทำการุณยฆาตจำนวน 1,432 รายในปี 2012

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายใหม่นี้ได้ผ่านสภาสูงเบลเยียมด้วยเสียง 3 ต่อ 1 และได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการยุติรรมเบลเยียมเมื่อเดือนธันวาคม 2013

ซึ่งคาดกันว่าพรรคกลางซ้าย พรรคเสรีนิยม และพรรคกรีนส์จะสนับสนุนร่างกฎหมายการุณยฆาตไม่จำกัดอายุ แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคกลางขวาที่เป็นพันธมิตรกับศาสนจักรคาทอลิกจะโหวตคว่ำกฎหมายฉบับนี้ “นี่ไม่ใช่การตัดสินว่าเด็กจะตายหรือไม่ แต่ความตายมาเยือนเร็วมาก เด็กควรได้รับโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นว่าเขาหรือเธอควรจะจบชีวิตลงอย่างไร” แดเนียล บาคิวเลน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเบลเยียมที่เป็นแพทย์และสนับสนุนกฎหมายการุณยฆาตฉบับแก้ไขให้ความเห็น