ลำปาง - เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างพร้อมเจ้าของ “พังแตงโม” วอนสนับสนุนให้ใช้วิธีการุณยฆาตพังแตงโมที่ป่วยหนัก ระบุเพื่อให้ช้างน้อยจากไปอย่างสงบไม่ต้องทรมานกับแผลกดทับที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ วอนหยุดวิพากษ์วิจารณ์
ที่มูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง น.ส.โซไรดา ซาวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างแห่งแรกของโลก และที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง นายเนติวิน อมรสิน เจ้าของช้างน้อยพังแตงโม เพศเมีย อายุ 3 ปี ซึ่งเป็นช้างที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจยึดมาจากหมู่บ้านช้างใน จ.สุรินทร์ ก่อนที่จะนำมาไว้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มานานกว่า 6 เดือน เพื่อดูแลในช่วงระหว่างดำเนินคดี แต่สุดท้ายศาลสั่งไม่ฟ้องและให้คืนลูกช้างให้กับเจ้าของ แต่ลูกช้างกลับป่วยหนักและไม่มีวี่แววว่าจะหายเป็นปกติและรอวันล้มเท่านั้น ได้ออกมาเรียกร้องให้สนับสนุนการทำการุณยฆาต หรือการฉีดยาให้ช้างจากไปอย่างสงบเพื่อให้ลูกช้างหมดความทุกข์และจากไปด้วยความสงบ
น.ส.โซไรดา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างแห่งแรกของโลก กล่าวว่า ตนเองได้ทำงานอนุรักษ์ และรักษาช้างไทยมานาน อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดการกระทำดังกล่าวที่เป็นการทรมานลูกช้างพังแตงโม ไม่อยากให้ดึงเวลาให้ช้างต้องทนต่อความเจ็บป่วยและเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะบาดแผลกดทับลุกลามมาก และหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ใช้การุณยฆาตแก่ช้าง หรือคือการฉีดยาให้ช้างน้อยหลับก่อนและเดินยาให้ลูกช้างหลับแบบนิรันดร์ ซึ่งเป็นหลักสากลที่ให้ช้างจากไปอย่างสงบโดยที่ไม่ต้องทรมานมากไปกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้ทำการการุณยฆาตช้างป่วยหนักไปแล้ว 16 เชือก ตลอดระยะเวลาที่ก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 30 ปี ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอยากให้กลุ่มอนุรักษ์และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยเข้าใจว่าวิธีการดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการฆ่าสัตว์ใหญ่ แต่เป็นการปลดปล่อยความทุกข์ทรมานแก่ช้างที่เจ็บปวดจากบาดแผลที่หนักมาก หากทางสัตวแพทย์ที่ดูแลไม่สามารถทำได้ ทางมูลนิธิเพื่อนช้างจะดำเนินการเอง
ทั้งนี้ การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประวิงเวลาขณะนี้ และไม่ดำเนินการใดๆ และปล่อยให้ช้างทรมานไปเรื่อยๆ จนตายไปเอง นับเป็นการทารุณสัตว์อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้นอกจากชาวช้างในไทยที่ทราบข่าวแล้ว ยังมีชาวช้างจากต่างประเทศที่รู้ข่าวนี้ และร่วมลงรายชื่อ ณ วันนี้ (27 พ.ย.) กว่า 7,000 รายชื่อแล้ว เพื่อให้มีการการุณยฆาตแก่ช้าง และตำหนิการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ด้านนายเนติวิน อมรสิน เจ้าของช้างน้อยพังแตงโม กล่าวว่า ตนเห็นช้างน้อยของตนเองมีอาการที่หนักและแย่ลงเรื่อยๆ จึงอยากที่จะปลดทุกข์และความทรมานของช้างน้อยที่ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก จึงได้ร้องขอไปยังอธิบดีฯ เพื่อรับช้างออกมา เพื่อทำการให้ช้างจากไปอย่างสงบ แต่ก็กลับถูกปฏิเสธ ทำให้ตนเองหมดหนทางที่จะยุติความทรมานของช้างน้อยพังแตงโม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ขณะนี้จะไม่มีการเยียวยาช่วยเหลือใดๆ ต่อช้างและตนเองแล้ว แต่ก็อยากที่จะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบด้วย ซึ่งนอกจากทางกรมอุทยานฯ ที่จะบ่ายเบี่ยงในเรื่องนี้แล้ว ทางทีมคณะสัตวแพทย์ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ก็ไม่สามารถที่จะรักษาช้างน้อยให้หายได้ จึงอยากให้คืนช้างที่นอนป่วยหนักอยู่ในขณะนี้ให้กับตนเพื่อจะได้ตัดสินใจให้ช้างจากไปอย่างสงบ ถึงแม้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะแจ้งเข้ามาว่า หากรับช้างออกไปแล้วทำการการุณยฆาตก็จะได้รับเงินชดใช้เพียง 20,000 บาทเท่านั้น แต่ตนก็อยากที่จะให้ช้างน้อยหมดความเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะเป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างมาก