ลำปาง - เจ้าของพลายธงไชย ช้างของกลางที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดส่งให้ศูนย์ช้างฯ ดูแล ยิ้มรับลูกช้างกลับบ้านแล้ว ขณะที่เจ้าของพังแตงโม เศร้าหนักหลังลูกช้างที่ถูกยึดป่วยหนักรอวันสิ้นลม แม้ศาลสั่งให้ส่งคืนก็รับกลับไม่ได้ กรรมการแก้ไขปัญหาช้างเร่งให้ภาครัฐเยียวยา แนะใช้เมตตาฆาตกับพังแตงโมเพื่อพ้นทุกข์
วันนี้ (20 พ.ย. 56) น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาพบกับ น.ส.โซไลดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง และอนุกรรมการคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของราษฎรกลุ่มคนเลี้ยงช้าง พร้อมกับนายเนติวิน อมรสินทร์ ควาญช้างชาวสุรินทร์ เจ้าของช้างพังแตงโม ลูกช้างวัย 3 ปีเศษ, นายจรัส ศาลางาม เจ้าของพลายธงไชย ลูกช้างวัย 4 ปีเศษ ซึ่งลูกช้างทั้งสองเชือกเป็นช้างของกลางที่ถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจยึดอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ และส่งมาให้ศูนย์อนุรักษ์ช้างดูแล แต่ต่อมาศาลได้สั่งให้คืนช้างทั้ง 2 ตัวให้แก่เจ้าของแล้ว
ขณะที่กรมอุทยานฯ ได้อนุญาตให้นำลูกช้างพลายธงไชยกลับบ้านไปเลี้ยงดูแทนที่จะให้ทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยดูแล แม้จะอยู่ระหว่างการสอบสวนก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับลูกช้าง เหมือนกับพังแตงโม ที่แม้ศาลสั่งให้คืนเจ้าของแล้วแต่เจ้าของไม่สามารถนำกลับได้ เนื่องจากลูกช้างป่วยหนักรอวันที่จะสิ้นลมเท่านั้น ซึ่งก็สร้างความดีใจให้กับเจ้าของพลายธงไชยเป็นอย่างมาก
โดย น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายเนติวิน เจ้าของลูกช้างพังแตงโม แทนเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ได้เข้าไปตรวจยึดลูกช้างมาจนขณะนี้ลูกช้างป่วยหนัก แม้จะไม่ได้มีเจตนา หรือเกิดจากอุบัติเหตุก็ตาม และพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการเยียวยาแก่เจ้าของช้างให้เร็วที่สุด
น.ต.วุฒิพงศ์บอกว่า กรณีพังแตงโม ตนก็อยากให้มีการเยียวยา ซึ่งขณะนี้คงจะเยียวยาที่ตัวลูกช้างไม่ได้ก็คงต้องเยียวยาที่เจ้าของแทน อาจจะเป็นลูกช้างตัวใหม่ซึ่งก็อาจจะไม่เพียงพอ เมื่อเปรียบกับความรู้สึกของเจ้าของ เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่ และเจ้าของที่เลี้ยงก็เลี้ยงดูแบบลูก มีความผูกพัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมการฯก็จะเร่งในการช่วยเหลือในสิ่งที่ทำได้ก่อน ส่วนในอนาคตถ้ามีกรณีแบบเดียวกันนี้อีกก็ต้องให้มีการวางกฎเกณฑ์กันใหม่ และต้องดูแลเยียวยาเหมือนเป็นคนคนหนึ่ง
ขณะที่นายเนติวินได้ยกมือรับไหว้และกล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกหลังศาลมีคำสั่งคืนลูกช้างพังแตงโมให้กับตนเอง แต่ตนก็ไม่สามารถรับลูกช้างกลับบ้านได้เนื่องจากป่วยหนัก และขณะนี้ก็เป็นเพียงการยื้อเวลาให้พังแตงโมอยู่ได้นานที่สุดเท่านั้น เนื่องจากพังแตงโมเริ่มกินอาหารได้น้อย ร่างกายผอม แผลกดทับเริ่มลามมากขึ้น แม้ก่อนหน้านี้ตนเองจะยื่นเรื่องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเยียวยา แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และไม่เคยมีใครออกมารับผิด หรือขอโทษกับการตรวจยึดลูกช้างดังกล่าวเลย
ด้าน น.ส.โซไลดากล่าวว่า ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ดูแลช้างมานาน และเป็นอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคนเลี้ยงช้าง ก็จะร่วมกันวางแนวทางในการตรวจยึด-อายัดช้างอย่างไรถึงจะเป็นธรรม โดยเราไม่เห็นด้วยว่าจะต้องมีการย้ายช้างออกนอกพื้นที่แล้วนำไปไว้ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งก็ได้เริ่มดำเนินการแล้ว
ส่วนเรื่องที่ช้างเป็นของกลางที่อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่หลังการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้าง แล้วเกิดการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุใดๆ ก็ตาม เช่น พังแตงโม ภาครัฐต้องรีบเยียวยา ทั้งตัวช้างและเจ้าของช้าง รวมทั้งแนวทางในการดูแลช้างของกลาง และเสนอแนวทางเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.สัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งก็ต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างสัตว์ป่ากับสัตว์เลี้ยง
ขณะที่การคืนช้างที่เป็นของกลางกลับไปให้เจ้าของดูแลระหว่างสอบสวน วันนี้ก็ได้ปลดล็อคแล้วเป็นเชือกแรก คือ พลายธงไชย ซึ่งเป็นช้างของนายจรัส ศาลางาม ก็ได้มารับลูกช้างกลับไปเลี้ยงที่บ้านที่จังหวัดสุรินทร์แล้ว
สำหรับเรื่องที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน ณ เวลานี้ก็คือ ต้องเยียวยาเจ้าของพังแตงโม เนื่องจากเจ้าของได้ต่อสู้และเรียกร้องมานานแล้ว หมดค่าใช้จ่ายไปมากแล้ว
น.ส.โซไลดากล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่เห็นสภาพของพังแตงโมแล้วรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก อยากให้เมตตาฆาตลูกช้างแทน เพราะลูกช้างคงเจ็บปวดทรมาน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้ใช้วิธีเมตตาฆาตกับช้างที่บาดเจ็บ ป่วย และอีกหลายกรณีมาแล้วถึง 16 เชือก เพื่อช่วยให้ช้างพ้นทุกข์
