xs
xsm
sm
md
lg

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มโครงการ “โอบามาแคร์” ที่ตัวเลขชาวมะกันซื้อประกันสุขภาพ “เกิน” เป้าที่กำหนดไว้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเปิดตัวโครงการประกันสุขภาพพื้นฐาน หรือ “โอบามาแคร์” ที่เพิ่งเปิดไปเมื่อหน้าใบไม้ร่วงที่ผ่านมา แต่เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมนี้ที่ยอดตัวเลขชาวอเมริกันซื้อ “โอบามาแคร์” มีจำนวนสูงเกินเป้าที่กำนดไว้เกือบ 1.2 ล้านคน

ทั่วสหรัฐฯ ชาวสหรัฐฯที่ยังไม่มีประกันสุขภาพเกือบ 1.2 ล้านคนได้ซื้อประกันสุขภาพโอบามาแคร์ในเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้สมัครโอบามาแคร์ทั้งหมดมีราว 3.3 ล้านคนตั้งแต่เริ่มโครงการนี้ในต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา

การเปิดเผยตัวเลขครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่ถูกเปิดเผยโดยรัฐบาลสหรัฐฯเมื่อวานนี้(12) ซึ่งพบว่าเดือนมกราคมเป็นเดือนเดียวที่ปัญหาด้านเทคนิกคอมพิวเตอร์ไม่ส่งผลต่อผู้สนใจสมัครเข้าโครงการ ที่ก่อนหน้านั้นทำให้หน้าเพจเว็บไซต์ healthcare.gov ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และเว็บไซต์ the marketplace exchange ซึ่งเป็นของมลรัฐ ต่างๆ14 มลรัฐต่างประสบปัญหาด้านเทคนิกคอมพิวเตอร์ขั้นร้ายแรง โดย the marketplace exchange นั้นดำเนินการอยู่ใน 34 มลรัฐทั่วสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามรายงานล่าสุดที่เปิดเผยในวันพุธ(12)ยังชี้ถึงร่องรอยปัญหาเหล่านี้ จากตัวเลขผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 3.3 คน มีเพียงยอดตัวเลขราวเกือบ 1.2 ล้านคนเท่านั้นที่สมัครในเดือนมกราคม ซึ่งต่างจากจำนวนตัวเลขที่การคาดการณ์ของคณะกรรมาธิการวิเคราะห์งบดุลของสภาคองเกรซสหรัฐฯในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมีผู้ประกันตนใหม่จำนวนทั้งหมด 6 ล้านคน แทนที่จะเป็น 7 ล้านคน สมัครในช่วงเวลานี้ก่อนก่อนสิ้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

และจากรายงานที่เปิดเผยล่าสุด เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯระดับสูงและที่ปรึกษาได้กล่าวว่า สหรัฐฯยังไม่มีข้อมูลมากพอเพื่อตอบ 2 ปัญหาใหญ่ จากจำนวนของผู้ที่สมัครโครงการโอบามาแคร์ มีจำนวนผู้ประกันตนมากเท่าใดที่ได้จ่ายค่าพรีเมียมครั้งแรกไปแล้วเพื่อให้พวกเขาได้รับการคุ้มครอง และปัญหาที่สอง มีจำนวนชาวอเมริกันที่ยังไม่มีประกันสุขภาพอีกมากเท่าใดเหตุเพราะพวกเขาไม่ต้องการเปลี่ยนแผนประกันจากประกันสุขภาพเดิมที่ได้ถูกยกเลิกไป

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ แคธลีน เซบิลิอูซ ถือว่าตัวเลขที่เพิ่งได้รับการประกาศออกมาแสดดงถึงยอดผู้สมัครที่มากขึ้นในโครงการนี้

ซึ่งทั้งเซลิบิอูซและรายงานตัวเลขต่างพุ่งเป้าไปที่ยอดตัวเลขสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของผู้ประกันตนในวัยเริ่มทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้สมัครมากที่สุดเพื่อให้โครงการประกันสุขภาพพื้นฐานนี้ดำเนินงานต่อไปได้ เพราะกลุ่มคนวัยนี้ยังแข็งแรงอยู่จึงมีค่าพรีเมียมต่ำ

จากกลุ่มผู้ซื้อประกันสุขภาพโอบามาแคร์ในเดือนมกราคม มีจำนวนกลุ่มวัยเริ่มตนทำงานช่วงอายุ 18-34 ปีได้ซื้อประกันคิดเป็นสัดส่วน 27% เปรียบเทียบกับยอด 24% ของเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้าเดือนมกราคมรวมกัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขทั้งคู่นี้ต่างต่ำกว่า 40% ที่เป็นยอดซึ่งผู้เชี่ยวชาญต้องการเพื่อที่จะให้อัตราพรีเมียมของโครงการประกันสุขภาพโอบามาแคร์นั้นคงที่

แต่ถึงแม้ว่ายอดผู้ซื้อประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานในเดือนมกราคมจะสูงเกินกว่าที่รัฐบาลสหรัฐฯได้คาดการณ์ไว้ แต่ทว่าจำนวนตัวเลขผู้สมัครทั้งหมดยังต่ำกว่ายอดในเดือนธันวาคม ที่ชาวอเมริกันแห่ไปสมัครเพราะกลัวเส้นตายที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องมีประกันสุขภาพก่อนวันที่1 มกราคม 2014

นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า ทั้งผู้สนใจสมัครประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และประกันสุขภาพของมลรัฐ พบว่ามีผู้ประกันตนเป็นหญิงมากกว่าชายที่ 55% ต่อ 45%

และสัดส่วนของชาวอเมริกันที่มคุณสมบัติได้รับการช่วยเหลือจ่ายค่าพรีเมียมจากรัฐบาลสหรัฐฯมียอดสมัครเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนที่ผ่านมา เป็นผลทำให้ยอดผู้สมัครตลอดทั้ง4เดือนอยู่ที่ 82%

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯที่รัฐบาลช่วยเหลือให้ชาวอเมริกันที่มีรายได้สูงถึง 4 เท่าของระดับมาตรฐานความยากจนที่กำหนดโดยรัฐสามารถซื้อประกันสุขภาพของเอกชนได้

และรายงานที่เปิดเผยล่าสุดนี้ยังรายงานว่า ผู้ประกันตนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในเขตวอชิงตัน และมียอดที่สูงมากอยู่ในรัฐเวอร์จิเนียจากที่ได้สมัครในเดือนธันวาคมที่ 45,000 ราย พุ่งสูงไปที่ 74,000 รายในสิ้นเดือนมกราคม

เป้าหมายประกันสุขภาพของโครงการโอบามาแคร์ที่จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ healthcare.govของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และเว็บไซต์ the marketplace exchange ซึ่งเป็นของมลรัฐมีเป้าหมายเพื่อช่วยชาวอเมริกันที่ไม่สามารถได้ประกันสุขภาพจากงานที่พวกเขาทำอยู่ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นส่วนที่เล็กเมื่อคิดตามสัดส่วนของประชากรสหรัฐฯทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น