เอเจนซีส์ - ในช่วงเช้าวันที่ 20 จอห์น แวร์ริเออร์ วัย 30 ปี ชาวนิวยอร์ก เสียชีวิตในห้องรอคิวการรักษาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาส ในเขตบรองซ์ นิวยอร์ก หลังจากที่เขารอคิวนานกว่า 8 ชม. เพื่อรักษาอากาผื่นแดง รปภ.โรงพยาบาลผู้พบศพคาดเสียชีวิตมานานหลายชั่วโมงแล้วก่อนที่จะถูกพบ
จอห์น แวร์ริเออร์ วัย 30 ปี ได้เดินทางมายังแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาส ในเขตบรองซ์ นิวยอร์ก เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 19 มกราคม ด้วยอาการโรคผื่นแดง รายงานจาก WABC ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ตรวจสอบอาการของแวร์ริเออร์ก่อนจะบอกให้เขานั่งรอเรียกตามคิว และในวันที่ 20 มกราคม เวลา 06.40 น. รปภ.โรงพยาบาลพบร่างแวร์ริเออร์นั่งเสียชีวิตบนเก้าอี้ในห้องรอเรียกชื่อผู้ป่วย
“ร่างของแวร์ริเออร์ถูกพบในสภาพที่แข็ง เขียวคล้ำ และตัวเย็นเฉียบ คาดว่าเขาคงเสียชีวิตมาได้หลายชั่วโมงแล้ว” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาสเผยต่อ WABC ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวท้องถิ่นของสื่อ WABC สอบถามต่อไปว่า เป็นไปอย่างไรที่โรงพยาบาลที่ใหญ่และสำคัญในเมืองนิวยอร์กจะละเลยไม่สนใจติดตามผู้ป่วยที่นั่งรอคิวเพื่อรับการรักษา แต่ทว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งนี้ตอบกลับมาว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีนโยบายที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบคนไข้ที่รอเรียกชื่อว่ายังรออยู่หรือไม่ หรือคนไข้ได้เสียชีวิตไปแล้ว
อ้างจาก WABC เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เข้ากะทำงานในช่วงที่แวร์ริเออร์เสียชีวิตนั้นได้โทษการขาดบุคลากรของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่เป็นสาเหตุให้ปล่อยให้คนไข้รอนานเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนเขาเสียชีวิต “ผมสามารถพูดได้เลยว่าจากที่ผู้ป่วยแวร์ริเออร์เสียชีวิตนั้นเป็นเพราะไม่มีจำนวนเจ้าหน้าที่ทำงานมากพอเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในแต่ละวัน โรงพยาบาลต้องจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาสเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม โฆษกโรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาสกล่าวว่า ผู้ป่วยที่ได้เสียชีวิตลงไปนั้นได้ถูกเช็กเป็นระยะๆ ตลอดช่วงเวลา 8 ชม.ที่แวร์ริเออร์ได้นั่งรอ และได้เรียกชื่อของเขาเพื่อรับการตรวจเมื่อถึงคิว แต่ทว่าแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งนี้ได้ออกมายืนยันว่า แถลงการณ์โรงพยาบาลนั้นเท็จ 100% ที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ออกมาดูแวร์ริเออร์เป็นระยะ เพราะเมื่อดูจากจำนวนผู้ป่วยที่นั่งรอคิวเรียกชื่อแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถเช็กได้เป็นรายบุคคล แต่แหล่งข่าวผู้นี้ยืนยันว่าชื่อของแวร์ริเออร์ได้ถูกเรียกผ่านระบบ P-A ของห้อง ER ถึง 3 ครั้งแล้ว
นอกจากนี้ โฆษกโรงพยาบาลเซนต์บาร์นาบาส กล่าวว่า หลังจากที่ได้ประมวลผลแล้ว พบว่าโรงพยาบาลได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ทว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจำแผนก ER ยังคงยืนยันว่า การพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากการรอคอยที่ยาวนานแสดงถึงข้อบกพร่องของโรงพยาบาล “ในการรักษาพยาบาล ผมเข้าใจว่ามันเป็นธุรกิจ แต่หากผู้ป่วยเสียชีวิตในขณะที่คุณกำลังทำงานอยู่ นั่นหมายความว่ามันมีบางสิ่งต้องแก้ไข” แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวตบท้าย
ทั้งนี้ นักท่องเน็ตชาวอเมริกันต่างให้ความเห็นตรงกันว่า เหตุที่แวร์ริเออร์นั้นถูกละเลยในผนกห้องฉุกเฉินนั้นอาจเป็นเพราะเขาไม่มีประกันสุขภาพ หรือมีประกันสุขภาพที่ไม่ครอบคลุมพอ ซึ่งชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยจำนวนมากที่ไม่มีประกันสุขภาพต่างใช้บริการแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินเสมือนการเข้าพบแพทย์ปกติ เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธให้การรักษาผู้ป่วยที่มาขอรับการรักษาในแผนกฉุกเฉินได้และในรายคนไข้ที่ไม่มีเงินค่ารักษาทางรัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นผู้ออกค่ารักษาให้ โดยปกติแล้วการเข้ารับการรักษาคนไข้ผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพจะมีแพทย์ประจำบ้านของตนเอง หรือ Primary doctor ซึ่งทำให้มีนักท่องเน็ตชาวอเมริกันหลายรายต่างตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดแวร์ริเออร์จึงไม่ขอนัดแพทย์ประจำบ้านของตนเองเพื่อรับการรักษาผื่นแดงแต่กลับไปรอการรักษาที่แผนกฉุกเฉิน และเสียชีวิตลงไปในที่สุด
