เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ฝ่ายกบฏในซูดานใต้ประกาศในวันจันทร์ (10) ขู่ล้มการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติเหตุนองเลือดในประเทศที่ดำเนินมานานเกือบ 2 เดือน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยสมาชิกฝ่ายกบฏที่ยังถูกจองจำ รวมถึงขอให้ทหารต่างชาติถอนกำลังออกจากซูดานใต้ทั้งหมด
รายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลซูดานใต้กับผู้แทนของฝ่ายกบฏที่ประเทศเอธิโอเปีย ส่อเค้าประสบความล้มเหลว หลังจากที่ตัวแทนเจรจาของฝ่ายกบฏเพิ่มข้อเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาล ปล่อยนักโทษที่เป็นแกนนำฝ่ายกบฏอีก 4 ราย รวมถึงขอให้กองกำลังรักษาสันติภาพที่มาจากประเทศยูกันดา ถอนกำลังออกจากซูดานใต้ทั้งหมดเสียก่อน
ตาบัน เดง หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายกบฏแถลงว่า คณะของตนจะไม่เข้าร่วมการเจรจาที่มีเอธิโอเปียเป็นคนกลาง จนกว่าข้อเรียกร้องของฝ่ายตนจะได้รับการตอบสนอง แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลซูดานใต้จะยอมปล่อยแกนนำฝ่ายกบฏที่ถูกจับกุมให้เป็นอิสระไปแล้วอย่างน้อย 7 รายตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวก็มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 23 มกราคม
ทั้งนี้ การสู้รบที่ปะทุขึ้นในซูดานใต้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดี ซัลวา คิอีร์ที่มาจากชนเผ่า “ดิงกา” กับอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์แห่งชนเผ่า “นูเอร์” ที่ถูกสั่งปลด ก่อนที่ความขัดแย้งระหว่างบุคคลทั้งสองจะลุกลามกลายเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังที่ภักดีของแต่ละฝ่ายทั้งในกรุงจูบา เมืองหลวงของประเทศ และพื้นที่อื่นๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายพันคน ขณะที่อีกเกือบ 900,000 คนต้องกลายเป็นผู้อพยพ
ด้านนายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์ นายกรัฐมนตรีของเอธิโอเปีย ออกโรงเตือนว่า ความล้มเหลวของการเจรจาเพื่อยุติวิกฤตความขัดแย้งในซูดานใต้จะถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของแอฟริกาโดยรวม พร้อมแสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซูดานใต้ซึ่งแยกตัวออกมาจากซูดานเมื่อปี 2011 จะสิ้นสุดลงโดยสันติในเร็ววัน