เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การสหประชาชาติเผยอาจมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 500 ราย จากการสู้รบระลอกล่าสุดในซูดานใต้ ดินแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกที่ยังคงคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งความขัดแย้ง ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกประกาศสั่งให้พลเมืองอเมริกันรีบเดินทางออกจากซูดานใต้ในทันที
เชราร์ด อาโรด์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำองค์การสหประชาชาติเผยต่อผู้สื่อข่าว โดยอ้างแหล่งข่าวท้องถิ่นในกรุงจูบา เมืองหลวงของซูดานใต้ ซึ่งระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วระหว่าง 400-500 คน ขณะที่ประชาชนอีกราว 20,000 คนต้องเข้ามาขอลี้ภัยภายในที่ทำการของยูเอ็นในกรุงจูบา หลังเกิดการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงระหว่างทหารของซูดานใต้ด้วยกัน
ด้านประธานาธิบดีซัลวา คีร์ มายาร์ดิต ผู้นำวัย 62 ปี ของซูดานใต้ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศนับตั้งแต่การประกาศเอกราชในปี 2011 ออกมาแถลงว่าความรุนแรงระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในซูดานใต้นั้นเป็นผลจากความพยายามในการยึดอำนาจของทหารกลุ่มหนึ่งที่ภักดีต่ออดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ซึ่งถูกเขาสั่งปลดจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนกรกฎาคม
รายงานข่าวระบุว่า เกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนับตั้งแต่วันอาทิตย์ (15) ระหว่างทหารที่ภักดีต่อประธานาธิบดีซัลวา คีร์ มายาร์ดิต กับทหารที่สนับสนุนอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ โดยมีเสียงปืนดังกึกก้องในหลายพื้นที่ของกรุงจูบา เมืองหลวงของประเทศที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 370,000 คน
ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติออกคำแถลงซึ่งระบุว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นชาวเกาหลีใต้แสดงความเป็นห่วงอย่างลึกซึ้งต่อความรุนแรงในซูดานใต้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสู้รบอย่างทันทีทันใด ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ออกคำแถลงที่เรียกร้องให้รัฐบาลซูดานใต้ใช้ช่องทางในการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม และขอให้มีการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการลุกลามขยายตัวของความรุนแรง
ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงจูบาออกประกาศที่ระบุให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากซูดานใต้ในทันที พร้อมขอให้พลเมืองอเมริกันจำนวนหนึ่งที่ยังคงตัดสินใจจะอยู่ในซูดานใต้ต่อไป “ทบทวนการตัดสินใจของตนเอง” อีกครั้งขณะที่ทางสถานทูตฯประกาศยุติภารกิจปกติของตนในซูดานใต้อย่างไม่มีกำหนด
ด้านเคซี โคปแลนด์ นักวิเคราะห์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองซูดานใต้จาก “อินเตอร์เนชันแนล ไครสิส กรุ๊ป” ออกมาระบุว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นทั่วกรุงจูบาล่าสุดนั้น แท้จริงแล้วมีต้นตอมาจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่างชนเผ่า “ดิงกา” ของประธานาธิบดีคีร์ มายาร์ดิต ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ กับชนเผ่า “นูเอร์” ที่เป็นเผ่าของอดีตรองประธานาธิบดีมาชาร์
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางการซูดานใต้ได้จับกุมผู้ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามในการทำรัฐประหารแล้วกว่า 10 ราย ขณะที่อีก 5 รายซึ่งรวมถึงอดีตรองประธานาธิบดีมาชาร์ยังคงหลบหนี
ทั้งนี้ ซูดานใต้ถือเป็นประเทศเอกราชแห่งล่าสุดของโลกที่เกิดขึ้นเมื่อ 9 กรกฎาคม ปี 2011 หลังการลงประชามติของประชาชนด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึงร้อยละ 98.83 ที่ต้องการให้แยกซูดานใต้ออกจากซูดาน
อย่างไรก็ดี ซูดานใต้ซึ่งมั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน กลับต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่างชนเผ่าต่างๆ ในประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เป็นเอกราช
