เอเอฟพี - โตโยต้า เตรียมปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในออสเตรเลียในอีกไม่ถึง 4 ปีข้างหน้า ซึ่งเท่ากับเป็นการ “ตอกฝาโลง” อุตสาหกรรมรถยนต์แดนจิงโจ้ให้ตายสนิท แม้นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบอตต์ จะพยายามทัดทานแล้วก็ตาม
ผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 1 จากเมืองปลาดิบแถลงวันนี้ (10 ก.พ.) ว่า โรงงานโตโยต้าในออสเตรเลียจะหยุดผลิตรถและเครื่องยนต์ภายในสิ้นปี 2017 ซึ่งหมายความว่า พนักงานราว 3,900 คนที่โรงงานในเขตอัลโทนา นครเมลเบิร์น และอีก 150 คนที่ศูนย์ออกแบบ อาจจะต้องถูกลอยแพ และทำให้ออสเตรเลียไม่เหลือโรงงานประกอบรถยนต์อยู่เลยแม้แต่แห่งเดียว
โตโยต้า อ้างถึงปัจจัยลบต่างๆที่บีบให้บริษัทต้องถอนตัวออกจากเมืองจิงโจ้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่า และการแข่งขันในตลาดรถยนต์ที่ดุเดือดยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี แอบบอตต์ ได้พยายามหว่านล้อมให้โตโยต้าเปิดโรงงานต่อไป เพื่อไม่ให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของออสเตรเลียต้องล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง
หลายฝ่ายเริ่มหวั่นเกรงอนาคตของโตโยต้าในออสเตรเลีย ภายหลังจากที่ เจเนอรัล มอเตอร์ส ค่ายรถรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศปิดโรงงานรถยนต์ยี่ห้อ “โฮลเดน” (Holden) ในออสเตรเลียภายในปี 2017 หลังดำเนินกิจการมากว่า 60 ปี และมีการจ้างแรงงานถึง 2,900 คน
ค่ายรถญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิ ตัดสินใจปิดโรงงานที่เมืองแอดิเลดไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ส่วน ฟอร์ด ก็เตรียมถอนตัวออกจากออสเตรเลียและลอยแพพนักงาน 1,200 ตำแหน่งในอีก 2 ปีข้างหน้า โตโยต้า จึงเป็นค่ายรถแห่งสุดท้ายที่ยังใช้ออสเตรเลียเป็นฐานการผลิต จนกระทั่งมีประกาศ “อำลา” ออกมาในวันนี้ (10)
สหภาพแรงงานการผลิตของออสเตรเลียเตือนว่า การปิดโรงงาน โตโยต้า อาจฉุดให้เศรษฐกิจออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะถดถอย ในขณะที่ประเทศยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมเหมืองมานานนับสิบปี