xs
xsm
sm
md
lg

‘เฟด’ เมินตลาดเกิดใหม่ปั่นป่วน ลดซื้อพันธบัตรรอบ 2 อีก $หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เบน เบอร์นันกี ว่าที่อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ครั้งสุดท้าย ก่อนอำลาตำแหน่ง
เอเจนซีส์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ “คิวอี” โดยประกาศในวันพุธ (29 ม.ค.) ลดมูลค่าการรับซื้อสินทรัพย์ลงมาอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ถึงแม้ถูกกล่าวหาว่า เป็นต้นเหตุความปั่นป่วนในบรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) นัดสุดท้ายในยุคที่มี เบน เบอร์นันกี เป็นประธานคราวนี้ ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ใกล้ 0% ตามเดิม

หลังเสร็จสิ้นการประชุมเอฟโอเอ็มซีในวันพุธ ซึ่งเป็นหนสุดท้ายที่เบอร์นันกีเป็นประธาน ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งต่อให้แก่ เจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟดคนปัจจุบันที่จะก้าวขึ้นเป็นประธานเฟดที่เป็นผู้หญิงคนแรกตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เฟดออกคำแถลงโดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้ข้อมูลทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว ซึ่งออกมานับแต่การประชุมครั้งก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่โดยรวมแล้วเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีผลประกอบการดีขึ้น

ข้อมูลบ่งชี้ว่า “กิจกรรมเศรษฐกิจมีอัตราเติบโตไต่ระดับสูงขึ้นในช่วงหลายไตรมาสหลังๆ นี้” คำแถลงของเอฟโอเอ็มซีระบุ ซึ่งเป็นการใช้ถ้อยคำที่สะท้อนถึงความสดใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประเมินในเดือนธันวาคม ที่ระบุว่า เศรษฐกิจอเมริกัน “กำลังขยายตัวด้วยฝีก้าวพอประมาณ”

พร้อมกันนั้น คำแถลงล่าสุดยังกล่าวว่า “คณะกรรมการมองเห็นว่า ความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งมีต่อทิศทางแนวโน้มของเศรษฐกิจและของตลาดแรงงานนั้น กำลังอยู่ในลักษณะเข้าใกล้ความสมดุลมากยิ่งขึ้น”

ในการประชุมคราวนี้ เฟดยังกระทำสิ่งซึ่งมีการคาดหมายกันไว้ นั่นคือ ประกาศลดขนาดโครงการซื้อคืนพันธบัตรลงมาเหลือเดือนละ 65,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะเดียวกัน ก็คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นชั่วข้ามคืน “เฟด ฟันด์ เรต” เอาไว้ที่ 0-0.25% ตามเดิม

เฟดซึ่งตามกฎหมายของสหรัฐฯ มีหน้าที่ทั้งกระตุ้นการจ้างงานและรักษาเสถียรภาพราคา กล่าวอธิบายในคำแถลงว่า เงื่อนไขขณะนี้เอื้ออำนวยสำหรับการลดมาตรการกระตุ้น “อย่างระมัดระวัง”

ทางด้านตลาดหุ้นนิวยอร์กวันพุธขานรับคำแถลงของเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ด้วยการดิ่งลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรคลังสหรัฐฯ ระยะ 10 ปีทำสถิติต่ำสุดนับแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบยูโร แต่อ่อนลงเมื่อเทียบเยน

ขณะเดียวกัน มติที่ลดขนาดมาตรการ “ผ่อนคลายเชิงปริมาณ” (คิวอี) ลงมาอีกของเอฟโอเอ็มซี ก็ส่งผลกระทบต่อพวกตลาดเกิดใหม่ในทันที โดยในวันพฤหัสบดี (30) สกุลเงินตราทั้งของอินเดีย, แอฟริกาใต้, และตุรกี ต่างไม่อาจขยับขึ้นได้ ทั้งที่ทางการของชาติเหล่านี้พยายามรับมือด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ส่วนราคาหุ้นในตลาดแถบเอเชียก็พากันร่วง

ทางด้านนักวิเคราะห์อย่างเช่น แดเนียล อัลเพิร์ต หุ้นส่วนผู้จัดการเวสต์วูด แคปิตอลในนิวยอร์ก ชี้ว่า คำแถลงล่าสุดนี้สะท้อนว่า เฟดตัดสินใจสานต่อเพื่อยุติโครงการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้

ขณะที่ ไรอัน สวีต จากมูดีส์ อนาลิติกส์ แสดงความเห็นว่า หากจะมีเรื่องน่าประหลาดใจอยู่บ้างจากคำแถลงครั้งนี้ คงเป็นการที่เฟดไม่เอ่ยถึงความเสี่ยงขาลงในตลาดโลก โดยเฉพาะในหมู่ประเทศตลาดเกิดใหม่ อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกผู้วางนโยบายการเงินของสหรัฐฯยังไม่ยอมรับทราบว่า ความปั่นป่วนในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลจากการตัดสินใจลดการซื้อพันธบัตรของเฟดในเดือนธันวาคม

ทั้งนี้ สภาพการเทขายสกุลเงินและหุ้นในตลาดเกิดใหม่ช่วงไม่กี่วันหลังๆ มานี้ ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดเหล่านี้ เมื่อประกอบกับรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนธันวาคมซึ่งออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง ทำให้ก่อนหน้านี้ผู้สังเกตการณ์บางคนคิดว่า เฟดอาจชะลอการลดการซื้อพันธบัตรออกไปก่อน

ในส่วนตลาดแรงงาน คำแถลงของเอฟโอเอ็มซีชี้แจงว่า แม้อัตราว่างงานลดลงแต่ยังถือว่าสูงอยู่ โดยอัตราว่างงานเดือนธันวาคมอยู่ที่ 6.7% ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนมากระบุว่า มีสาเหตุจากสภาพอากาศเลวร้ายรุนแรง

สำหรับการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและการลงทุนถาวรของภาคธุรกิจนั้น เฟดบอกว่ากำลังเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ แม้ตลาดที่อยู่อาศัยยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก็ตาม

นอกจากนี้แม้นโยบายการคลังของสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมา อยู่ในลักษณะที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ผลกระทบจากการลดงบประมาณและการขึ้นภาษีกลับกำลังลดลงมา และความคาดหวังต่ออัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2%

เอฟโอเอ็มซีย้ำว่า จังหวะในการลดการซื้อพันธบัตรไม่ใช่เงื่อนไขที่กำหนดล่วงหน้า แต่ต้องติดตามตรวจสอบแนวโน้มตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงประสิทธิภาพและต้นทุนในการจัดซื้อก่อนตัดสินใจดำเนินการต่อไป

คำแถลงยังคาดว่า ด้วยนโยบายที่เหมาะสม กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะขยายตัวต่อไปในระดับพอประมาณ และอัตราว่างงานจะค่อยๆ ลดลงสู่ระดับที่ถือว่าสอดคล้องกับภารกิจหลัก 2 ข้อของเฟด

เฟดยังประกาศถือหลักเกณฑ์เดิมในการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย นั่นคือ จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 6.5% และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อต้องต่ำกว่า 2%

การประชุมเอฟโอเอ็มซีครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายที่มีเบอร์นันกีเป็นประธาน หลังจากกุมบังเหียนเฟดผ่านช่วงเวลาแห่งวิกฤตการเงินปี 2008 และภาวะถดถอยปี 2007-2009 ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ทีเดียว

การตัดสินใจของเอฟโอเอ็มซีครั้งนี้เป็นไปในแบบมติเอกฉันท์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากเดือนมิถุนายน 2011 ที่สมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงทั้ง 10 คนออกเสียงไปในทิศทางเดียวกันหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น