ภาวะปั่นป่วนในตลาดเกิดใหม่ฉุดหุ้นมะกัน-น้ำมันลง ทองคำทรงตัว

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ความวิตกต่อตลาดทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ทั้งในตุรกีและอาร์เจนตินา ที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือนเมื่อวันจันทร์ (27) ก่อแรงเทขายในตลาดทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จนวอลล์สตรีทปิดในแดนลบ ปัจจัยนี้เองก็ฉุดให้น้ำมันขยับลงพอสมควร ยกเว้นทองคำที่ดีดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ดาวโจนส์ ลดลง 41.23 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,837.88 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.73 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,781.56 จุด แนสแดค ลดลง 44.56 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,083.61 จุด

ข้อกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาภาคธนาคารของจีน ความเสี่ยงทางการเมืองในยูเครน ตุรกี และไทย เช่นเดียวกับเค้ารางวิกฤตทางการเงินในอาร์เจนตินา เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่รุมล้อมตลาดเกิดใหม่ที่ก่อความหวาดผวาแก่ตลาดทุนทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ยังถูกซ้ำเติมจากความคาดหมายที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีกเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความวิตกต่อความยุ่งเหยิงในตลาดเงินและตลาดทุนโลกนี้ ทำให้ราคาน้ำมันวานนี้ (27) ปิดลบพอสมควร เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่ามันจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและกัดเซาะอุปสงค์ทางพลังงานตามไปด้วย

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 92 เซ็นต์ ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

คาช คามาล นักวิเคราะห์จากซัคเดน โบรเคอเรจ ในลอนดอน บอกว่าการซื้อขายวานนี้ (27) เป็นไปอย่างเบาบางสืบเนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ขณะเดียวกันนักลงทุนก็รอผลประชุม 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มขึ้นในวันอังคาร (28) นี้

ด้านราคาทองคำวานนี้ (27) ฟื้นตัวขึ้นมาปิดลบในกรอบแคบๆ เหตุความตื่นตระหนกในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผลักให้นักลงทุนหันเข้าหาโลหะมีค่าสีเหลือง ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 90 เซ็นต์ ปิดที่ 1,263.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์