เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้ (26) ดิ่งลงหนักอย่างฉับพลัน ทันทีที่เฟดแถลงลดกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 เดือนติดต่อกัน ขณะที่ความกังวลในตลาดทุนก็ผลักให้ทองคำขยับขึ้น เหตุนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนน้ำมัน ก็ขยับลงเช่นกัน จากอุปสงค์ที่อ่อนแอในอเมริกา
ดาวโจนส์ ลดลง 183.03 จุด (1.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,745.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 18.18 จุด (18.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,774.32 จุด แนสแดค ลดลง 46.53 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,051.43 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน แต่ดัชนีทั้ง 3 ตัวดิ่งลงหนักอย่างทันทีทันใด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงในช่วง 2 ชั่วโมงก่อนปิดตลาดว่า จะปรับลดมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เหลือเดือนละ 65,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
ปัจจัยนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายทองคำวานนี้ (29) เนื่องจากตลาดปิดก่อนที่เฟดจะแถลง อย่างไรก็ตามราคาโลหะมีค่าชนิดนี้ ก็ขยับขึ้นอีกครั้ง ด้วยแรงเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำของนักลงทุน ตามหลังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,262.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ วานนี้ (29) ขยับลงเล็กน้อย หลังพบคลังเชื้อเพลิงสำรองของอเมริกาเพิ่มขึ้นเกินคาดหมาย บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 5 เซ็นต์ ปิดที่ 97.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 44 เซ็นต์ ปิดที่ 107.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มกราคม เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายโดยเฉลี่ยถึง 3 เท่า