เอเอฟพี – กองทัพฟิลิปปินส์แถลงวานนี้ (27 ม.ค.) ว่าได้สังหารสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง 17 รายที่ต่อต้านการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกบฏมุสลิมกลุ่มหลักของประเทศ ในเวลาที่เหตุปะทะยังดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 2
พันเอก ดิกสัน เอร์โมโซ โฆษกของกองทัพภาคกล่าวว่า มีทหารกว่า 1,500 นายเข้าร่วมภารกิจจู่โจมกลุ่ม “นักรบเพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร” (บีไอเอฟเอฟ) ในพื้นที่เพาะปลูกอันห่างไกลทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ที่ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นมุสลิม
เขาระบุว่า มีการยืนยันออกมาแล้วว่ามีสมาชิกกลุ่มบีไอเอฟเอฟเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันในสัปดาห์นี้ทั้งสิ้น 17 คน ขณะที่มีทหารสองคน และพลเรือนอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ
ปฏิบัติการโจมตีได้เปิดฉากขึ้นวานนี้ (27) ซึ่งเป็น 2 วันหลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่ม “แนวร่วมปลดแอกอิสลามโมโร” (เอ็มไอแอลเอฟ) ปิดฉากลงอย่างงดงาม โดยการพูดคุยดังกล่าวมุ่งยุติเหตุไม่สงบที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายหมื่นคน
ทั้งนี้ กลุ่มบีไอเอฟเอฟ เป็นกลุ่มหัวรุนแรงขนาดเล็กที่มีจุดยืนต่อต้านความพยายามผลักดันให้เกิดสันติภาพ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากบฏกลุ่มนี้ได้ก่อเหตุโจมตีขั้นรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขัดขวางกระบวนการสันติภาพ
เอร์โมโซกล่าวเสริมว่า กลุ่มบีไอเอฟเอฟมีสมาชิกหัวสุดโต่งราว 120 คน โดยคนเหล่านี้มีญาติพี่น้อง และสมาชิกกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่มีจุดยืนต่อต้านการเจรจาสันติภาพจำนวนหลายสิบคนคอยหนุนหลังอยู่
นอกจากนี้ เขาบอกด้วยว่าทหารกำลังดำเนิน “ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย” เพื่อรวบตัวสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้ 25 คนที่ต้องคดีมากมาย เป็นต้นว่า ลักพาตัว ฆาตกรรม และกรรโชกพลเรือน
สำหรับกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟนั้นเป็นผู้นำในการก่อกบฏมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 โดยเป้าหมายของพวกเขาคือการประกาศอิสรภาพ หรือเอกราชเหนือดินแดนของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นดินแดนของบรรพบุรุษ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กบฏกลุ่มนี้กำลังเพียรพยายามทำข้อตกลงสันติภาพ ร่วมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ กลุ่มบีไอเอฟเอฟก็เลิกภักดีต่อผู้นำกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ โดยกล่าวหาว่ากบฏมุสลิมกลุ่มหลักทรยศความพยายามไขว่คว้าอิสรภาพของชาวมุสลิม
ภายหลังที่การเจรจาดำเนินมาถึง 18 ปี เมื่อวันเสาร์ (25) กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟและรัฐบาลฟิลิปปินส์ก็เห็นพ้องต้องกัน ในส่วนสุดท้ายของข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งมุ่งตั้งเขตปกครองตนเองของชาวมุสลิม
ทั้งนี้ คาดหมายกันว่าจะมีการลงนามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการก่อนสิ้นเดือนมีนาคมปีนี้
ทางด้าน ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ได้ตั้งความหวังที่จะประกาศใช้แผนสันติภาพโดยสมบูรณ์ ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งในช่วงกลางปี 2016 ทว่ายังมีอุปสรรคทั้งทางด้านกฎหมาย การเมือง และการทหารมากมายที่เขายังต้องเผชิญ
หนึ่งในปัญหาเหล่านั้นก็คือ การมีกลุ่มติดอาวุธที่แตกย่อยมาจากกลุ่มใหญ่ เช่น กลุ่มบีไอเอฟเอฟ ออกมาต่อต้าน
เมื่อปี 2008 กลุ่มบีไอเอฟเอฟได้เปิดฉากโจมตีเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คน และประชาชนอีก 750,000 คนต้องละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน